เป็นพ่อแม่แบบไหนดี ลูกวัยรุ่นจึงจะไม่มีปัญหา
เป็นพ่อแม่แบบไหนดี ลูกวัยรุ่นจึงจะไม่มีปัญหา
ผมมีลูกสองคนครับ อายุประมาณ 14-15 ปี ลูกๆ ไม่มีปัญหาวัยรุ่นเกเรครับ ลูกเขาก็ ออกกำลังกายว่ายน้ำ เล่นบอลกัน แต่ตัวผมเองกลับมีปัญหาคือเป็นพ่อที่ขี้เกรงใจลูก กลัวลูกโกรธ กลัวลูกจะน้อยอกน้อยใจ จนภรรยาค่อนเอาว่าเป็นพ่อที่กลัวลูก ผมคิดเอาเองว่าเขาอาจคาดหวังจะให้ผมเป็นพ่อแบบที่เข้มข้น ขึงขันกระมังครับ ช่วยแนะนำด้วยว่าผมควรจะเป็นพ่อของลูกวัยรุ่นอย่างไรดี
พ่อใจดี
ผมขอชมเชยว่าเป็นคุณพ่อที่น่ารักนะครับ ให้ความรักความสนใจลูกมาก สิ่งที่เด็กเขาปรารถนามากคือ
เขาอยากให้พ่อแม่เข้าใจ
และ สามารถให้อภัยแก่เขาได้
ซึ่งคุณพ่อเล่นบทบาทตรงนี้ได้ดีแล้ว
อีกสิ่งรองลงมา คือ
อยากให้คุณพ่อคุณแม่เป็นแบบอย่างหรือให้แบบอย่างที่ดี
ผมเห็นด้วยว่า การกลัวเป็นสิ่งที่ดีแต่ต้องไม่กลัวจนไม่มีเหตุผล ตอนนี้เด็กเขาต้องการให้เราช่วยประคับประคอง ให้คำแนะนำเป็นเพื่อนที่ดี รับฟังเขา แต่เราก็ต้องรับฟังอย่างมีเหตุผล บางอย่างถ้ามันไม่สมเหตุไม่สมผล เราอาจจะพูดชี้แจงให้ลูกฟังอย่างใจเย็น ว่าพ่อคิดอย่างนี้ ลูกคิดยังไง ให้ลูกเขาพูดเสียก่อน แล้วที่ถูกต้องน่าจะเป็นอย่างไร เขาจะได้เรียนรู้ เขาอาจจะหกล้มบ้าง ทำอะไรที่ผิดหวังบ้าง ก็เป็นการฝึกกันไป
และผมคิดว่าบางครั้งคุณพ่อคุณแม่คงจะต้องนั่งคุยกัน เพื่อให้มีความคิดเห็น มีเหตุผลที่ถูกต้องเหมือนๆ กัน ไม่อย่างนั้นเด็กจะสับสนว่าแบบอย่างที่ดีคืออะไร ถ้าคุณแม่ว่าถูก คุณพ่อว่าผิด แล้วที่ถูกต้องคืออะไร เด็กเขาต้องการเรียนรู้เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต อย่างถูกต้องเหมาะสม อยู่ในสังคมต่อไปอย่างมีความสุข
ผมเห็นด้วยที่คุณพ่อทำครับ คือพ่อแม่ต้องเป็นผู้รับฟังที่ดีมากๆ เลยกับเด็กวัยรุ่น เห็นไหมว่าทำไมเด็กวัยรุ่นเขาถึงติดเพื่อน ทำไมเขาถึงคุยกับเพื่อนเป็นชั่วโมงได้ เวลาเขาคุยกับเพื่อน เพื่อนจะคล้อยตามเขา เพื่อนไม่ค่อยต่อว่าเขา เพื่อนเป็นผู้ฟังที่ดี
ผมอยากแนะนำคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกวัยรุ่นว่า ต้องพยายามทำตัวให้เป็นเพื่อนมากกว่าเป็นพ่อแม่ฟังให้มาก และอย่างตั้งใจ อย่าไปคาดหวังลูกมากเกินไป
บางครั้งเราเอาตัวเราเองเป็นบรรทัดฐาน ต้องอย่างนั้นต้องอย่างนี้ เราควรพอใจในความสามารถที่เขามีอยู่
และส่งเสริมให้เขาทำเต็มศักยภาพให้มากที่สุด ฝึกให้เขาแก้ปัญหา ถ้าหากเขาผิดพลาดหรือไม่ได้สิ่งที่หวัง เขาจะแก้ไขหรือจะทนต่อภาวะเครียดนั้นได้อย่างไร แต่อะไรที่อันตราย เขาก็ควรจะต้องได้เรียนรู้ว่าไปทำอย่างนั้นไม่ได้
เด็กจะต้องมีประสบการณ์ไม่ใช่ในแง่ได้อย่างเดียว ต้องมีทั้งสมหวังและผิดหวัง เพราะในความเป็นจริงนั้นชีวิตก็ไม่ราบรื่นเสียหมด แต่ต้องมีทางแก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธี เมื่อเขาได้ฝึกทักษะเหล่านี้จากพ่อแม่ไม่ว่าเขาจะไปอยู่ในภาวะใด เขาก็สามารถจะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ ไปแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างถูกวิธี
ผมคิดว่าหลักกว้างๆ น่าจะเป็นอย่างนี้ ไม่ต้องกลัวจนมากนัก เพราะจริงๆ เด็กวัยรุ่นที่เราเห็นว่าดื้อจริงๆ แล้วเขาฟังครับ ถ้าเรามีเหตุผลพอ แต่ที่มากกว่านี้ผมคิดว่าพ่อแม่จะต้องให้ความรัก เพราะความรักเป็นตัวสำคัญที่ผูกความสัมพันธ์ ระหว่างพ่อแม่ลูก ครอบครัวได้ดีที่สุด
น.พ.วิโรจน์ อารีย์กุล
วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
หาอ่านได้ที่
http://www.citydd.net