ReadyPlanet.com
dot dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot


แสนสุขวิล่าปูดำ
HONDA CIVIC 2016
HONDA CITY ALL NEW 2016
PAJERO SPORT 2.4 GLS
VOLVO  XC70  2.3AT 20valve


วิธีป้องกันโรคหวัดมรณะ(sars) article

.....วิธีป้องกัน โรคหวัดมรณะ(SARS) ??..

คำแนะนำสำหรับประชาชน
เพื่อป้องกันโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง
(SARS: Severe Acute Respiratory Syndrome)

เป็นโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันชนิดรุนแรง
สาเหตุ เชื้อโคโรนาไวรัส
การติดต่อ สัมผัสน้ำมูก น้ำลาย ผ้าเช็ดมือ ช้อนอาหาร หลอดดูด การแพราเชื้อจากมือสู่ปากและจมูก
ระยะฟักตัว 2-7 วัน โดยทั่วไปไม่เกิน 10 วัน หมายถึงระยะตั้งแต่ได้รับเชื้อจนแสดงอาการ
อาการ มีไข้สูงมากกว่า 38 องศา อาจมีอาการต่อไปนี้ หนึ่งอย่างหรือหลายอย่าง
ปวดเมื่อยตามตัว ปวดศีรษะมาก หนาวสั่น
หลังจากนั้น 3-7 วันจะเจ็บคอ ไอแห้งๆ
หลังจาก 7 วันประมาณ 90% จะทุเลาและหาย
ช่วง 10-14 วัน บางรายเกิดปวดบวมอักเสบโดยจะไอ หายใจลำบาก หอบ
ในช่วง 17-18 วันของการป่วยจะเสียชีวิต

การป้องกัน
1. ไม่ไปประเทศที่เป็นเขตระบาด(มณฑลกวางตุ้ง ของจีน ฮ่องกง เวียดนาม สิงคโปร์ ไต้หวัน)

2. ไม่คลุกคลีกับผู้มีอาการของโรค หากจำเป็นควรใช้หน้ากากอนามัย

3. รักษาสุขภาพอนามัยส่วนบุคคลให้ดี ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
a. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
b. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้และดื่มน้ำสะอาด ประมาณ 8 แก้วต่อวัน
c. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่หักโหมงานติดต่อกันนานเกินไป
d. งดเหล้า บุหรี่ พยายามลดความเครียด
e. รักษาความสะอาดของมือ โดยล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่
f. หลีกเลี่ยงไปในสถานที่ระบายอากาศไม่ดี ผู้คนแออัด



คำแนะนำสำหรับประชาชนทั่วไป

1. รักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ และสร้างเสริมภูมิคุ้มโรค ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ พยายามลดความเครียด และลดการสูบบุหรี่
2. ใช้ผ้าปิดปากปิดจมูกทุกครั้งเมื่อไอหรือจาม ขณะที่มีอาการเป็นหวัดควรใช้หน้ากากอนามัยอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่กับผู้อื่น
3. รักษาความสะอาดของมืออยู่เสมอ ควรล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ โดยเฉพาะหลังจากไอ จาม เช็ดน้ำมูก ไม่ควรใช้มือขยี้ตา แคะจมูก หรือปาก หากมีความจำเป็นต้องล้างมือให้สะอาดเสียก่อน
4. อย่าใช้ผ้าเช็ดตัวหรือผ้าเช็ดหน้าร่วมกับผู้อื่น ถ้าใช้กระดาษเช็ดน้ำมูก ควรทิ้งในถังขยะมีฝาปิด
5. ใช้ช้อนกลางเมื่อรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น
6. รักษาบ้านเรือนให้สะอาด เช็ดเครื่องเรือนและของใช้ในบ้าน โดยเฉพาะโทรศัพท์เป็นประจำอย่างน้อยวันละครั้ง ด้วยผ้าชุบน้ำสบู่หรือผงซักฟอกเจือจาง และเช็ดซ้ำด้วยน้ำสะอาด
7. เปิดประตูหน้าต่างให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทโดยสะดวก โดยเฉพาะถ้ามีผู้ป่วย
8. ในระยะนี้ควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนหนาแน่น และการระบายอากาศไม่ดี เช่น โรงภาพยนตร์ สถานบันเทิง ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
9. ในขณะเดินทางในรถโดยสารสาธารณะ หรือยานพาหนะที่อาจมีผู้ป่วย หรือผู้เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาด ควรใช้หน้ากากอนามัย
10. หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ และผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาด หากจำเป็นควรใช้หน้ากากอนามัย
11. พบแพทย์ทันทีที่มีอาการหวัด มีไข้ ไอหรือจาม
12. งดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีการระบาดของโรคนี้


สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศ

1. ในระยะนี้ควรงดเดินทางไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีการระบาดของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หากมีความจำเป็นต้องเดินทางควรป้องกันตนเองเพื่อลดความเสี่ยงจากโรค โดยหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนหนาแน่น หลีกเลี่ยงการใช้ชิดกับผู้ป่วย ควรใช้หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ที่มีความเสี่ยง เช่น ในเครื่องบิน สนามบิน รถยนต์โดยสารสาธารณะ สถานที่สาธารณะ ที่ประชุม และควรปฏิบัติตามคำแนะนำ เพื่อการป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุขในประเทศนั้นอย่างเคร่งครัด และเมื่อเสร็จธุรกิจแล้วควรรีบเดินทางกลับ
2. เมื่อเดินทางกลับจากประเทศที่มีการระบาด ควรหยุดงาน หยุดเรียนหนังสือ ลดการเดินทางและการติดต่อกับบุคคลอื่น เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อสังเกตอาการตนเองอยู่ที่บ้าน ในระหว่างนี้ควรพักอยู่ในห้องแยกต่างหาก ใช้หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ งดใช้ของใช้ส่วนตัวและภาชนะร่วมกับผู้อื่น หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับบุคคลในครอบครัว เพื่อลดความเสี่ยงที่บุคคลในครอบครัวและบุคคลอื่นจะติดเชื้อ
หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หรือสงสัยว่าจะเป็นโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง ให้ใช้หน้ากากอนามัย และรีบไปพบแพทย์ พร้อมแจ้งประวัติการเดินทางให้แพทย์ทราบด้วย


สำหรับโรงเรียนและสถานศึกษา
ขณะนี้เป็นระยะปิดภาคเรียนของโรงเรียนทั่วไป อย่างไรก็ตามมีการเรียนพิเศษในโรงเรียนและสถานศึกษาหลายแห่ง จึงขอแนะนำให้ปฏิบัติดังนี้
1. แนะนำให้เด็กที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หยุดพักการเรียน รีบไปพบแพทย์ และพักอยู่กับบ้านจนกว่าจะหายป่วย
2. หากพบเด็กที่มีอาการป่วยดังกล่าวขณะกำลังเรียน ควรแยกเด็กไว้ในห้องพยาบาลหรือห้องแยกต่างหาก และติดต่อผู้ปกครองให้มารับไปพบแพทย์
3. หากมีนักเรียนเดินทางกลับจากประเทศที่มีการระบาด ควรแนะนำให้หยุดพักการเรียนอยู่กับบ้าน เพื่อสังเกตอาการ เป็นเวลา 2 สัปดาห์ หลังกลับจากเดินทาง
4. รักษาความสะอาดของสถานที่ เช็ดอุปกรณ์ ของใช้ ของเล่น ราวบันได ลูกบิดประตู โทรศัพท์ เป็นประจำอย่างน้อยวันละครั้ง ด้วยผ้าชุบน้ำสบู่หรือผงซักฟอกเจือจาง และเช็ดซ้ำด้วยน้ำสะอาด
5. เปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกอยู่เสมอ
สอนนักเรียนเรื่องสุขนิสัย เช่น ปิดปากปิดจมูกเมื่อไอและจาม การล้างมือให้ถูกวิธี การใช้ช้อนกลางเมื่อรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น


สำหรับโรงแรมและบริษัทท่องเที่ยว
1. เอาใจใส่รักษาความสะอาดของสถานที่ ห้องพัก โดยเช็ดอุปกรณ์ ของใช้ ราวบันได ลูกบิดประตู โทรศัพท์ ภาชนะในห้องอาหาร เป็นประจำ ด้วยผ้าชุบน้ำสบู่หรือผงซักฟอกเจือจาง และเช็ดซ้ำด้วยน้ำสะอาด
2. หมั่นตรวจสอบ ทำความสะอาด บำรุงรักษาระบบหมุนเวียนอากาศ ภายในอาคารอย่างสม่ำเสมอ สำหรับห้องพักควรเปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
3. ถ้าพนักงานมีอาการป่วย มีไข้ ไอ เจ็บคอ ควรให้หยุดงาน และรับการตรวจรักษาจากแพทย์
4. จัดทำประกาศเตือน พร้อมคำแนะนำข้อปฏิบัติดูแลตนเองแก่ผู้เข้าพักและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาด หากพบผู้ใดมีอาการผิดปกติให้นำพบแพทย์ และรายงานกระทรวงสาธารณสุขทันที
5. โรงแรมหรือสถานที่ที่มีชาวต่างประเทศ ซึ่งมาจากประเทศที่มีการระบาดเข้าพัก ควรให้พนักงานป้องกันตนเอง โดยแจกหน้ากากอนามัยให้แก่พนักงานสวมขณะปฏิบัติงาน และให้พนักงานล้างมือด้วยและน้ำสบู่บ่อยๆ
6. มัคคุเทศก์ พนักงานขับรถ เรือ หรือยานพาหนะ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำงานใกล้ชิดกับผู้เดินทางหรือนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศที่มีการระบาด ควรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ และล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ
โรงแรมและบริษัทท่องเที่ยว ควรจัดหาหน้ากากอนามัย และแนะนำให้ผู้เดินทางหรือนักท่องเที่ยวจากประเทศที่มีการระบาดสวมใส่ตลอดเวลาที่ท่องเที่ยวอยู่ในประเทศไทย เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อ


สำหรับผู้ขับขี่และพนักงานประจำยานพาหนะโดยสาร
ผู้มีหน้าที่ขับรถประจำทาง รถทัวร์ รถตู้ รถไฟฟ้า รถแท็กซี่ และพนักงานประจำรถโดยสารสาธารณะ โอกาสได้รับเชื้อจากผู้โดยสารที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ซึ่งป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง จึงควรป้องกันตนเองดังนี้
1. สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ ล้างมือฟอกสบู่บ่อยๆ หรือทุกครั้งที่มีโอกาส
2. ไม่ควรใช้มือขยี้ตา แคะจมูก หรือปาก หากมีความจำเป็นต้องล้างมือให้สะอาดเสียก่อน
3. รักษาความสะอาดภายในรถเป็นประจำ เช็ดเบาะ ราวจับ พวงมาลัยรถ ที่ปิดเปิดประตู ด้วยผ้าชุบน้ำสบู่ หรือผงซักฟอกเจือจาง และเช็ดซ้ำด้วยน้ำสะอาด
4. รถทัวร์ รถตู้ ควรหลีกเลี่ยงการรับผู้โดยสารที่มีอาการไอ หากต้องรับ ควรเตรียมหน้ากากอนามัยให้ผู้โดยสารที่มีอาการไอคาดตลอดเวลาที่อยู่บนรถ และพยายามจัดให้นั่งอยู่ตอนท้ายของรถ ถ้าทำได้ควรเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทสะดวก
5. รถแท็กซี่ ควรหลีกเลี่ยงการรับผู้โดยสารที่มีอาการไอ ถ้าต้องรับผู้โดยสารที่มีอาการไอ ควรเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท และงดการใช้เครื่องปรับอากาศถ้าสามารถทำได้ ควรเตรียมหน้ากากอนามัยให้ผู้โดยสารที่มีอาการไอคาดตลอดเวลาที่อยู่บนรถ
พนักงานขับรถควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้นโรค และควรงดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

สำหรับพนักงานสายการบิน
1. ตรวจคัดกรองผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่อง งดการรับผู้โดยสารที่สงสัยว่าอาจจะเป็นโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง ควรขอใบรับรองแพทย์เพื่อประกอบการพิจารณารับผู้โดยสารที่มีอาการป่วย เพื่อให้แน่ใจว่าไม่เป็นโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง
2. ควรจัดหาและแจกหน้ากากอนามัย ให้ผู้โดยสารทุกคนสวมตลอดเวลาเดินทางบนเครื่องบิน
3. จัดให้ผู้โดยสารที่มีอาการป่วยนั่งอยู่ห่างจากผู้โดยสารอื่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
4. พนักงานสายการบินต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ และควรล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์ บ่อยๆ โดยเฉพาะหลังให้บริการหรือสัมผัสกับผู้โดยสารที่มีอาการป่วย
5. หากพบผู้โดยสารที่สงสัยว่าป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง ต้องวิทยุแจ้งเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคระหว่างประเทศของสนามบินที่หมาย ก่อนเครื่องลงจอด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคระหว่างประเทศเตรียมการตรวจสอบดูแลผู้ป่วยอย่างเหมาะสม เมื่อเดินทางถึงสนามบิน
การทำความสะอาดภายในเครื่องบินที่รับผู้โดยสาร จากประเทศที่มีการระบาดของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง ใช้วิธีทำความสะอาดตามปกติ เน้นการเช็ดทำความสะอาดเบาะที่นั่ง โต๊ะหน้าที่นั่ง ฝาผนัง พื้น อุปกรณ์ในห้องน้ำ ราวบันได โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำยาฆ่าเชื้อตามปกติ ไม่มีความจำเป็นต้องอบฆ่าเชื้อเป็นพิเศษ


ข้อแนะนำการใช้หน้ากากอนามัย
หน้ากากอนามัย สามารถหาซื้อได้จากร้านขายยา และร้านขายสินค้าเอนกประสงค์ทั่วไป โดยมีข้อแนะนำในการใช้ดังนี้
1. ล้างมือให้สะอาดก่อนสวมใส่หน้ากากอนามัย
2. สวมหน้ากากอนามัยให้คลุมทั้งจมูกและปาก ปรับสายหน้ากากให้กระชับกับใบหน้า
3. ถ้าใช้หน้ากากที่ทำด้วยกระดาษ ควรเปลี่ยนวันละครั้ง และทิ้งหน้ากากที่ใช้แล้วในถังขยะที่มีฝาปิด ถ้าใช้หน้ากากที่ทำด้วยผ้า สามารถซักด้วยน้ำและผงซักฟอก ตากให้แห้งและนำมาใช้ใหม่ได้
4. หากหน้ากากชำรุด หรือเปรอะเปื้อน ควรเปลี่ยนใช้หน้ากากอันใหม่
5. หากรู้สึกว่าหน้ากากอนามัยบางจนเกินไป อาจใส่ซ้อนกันสองชั้นได้
เพื่อป้องกันโรคให้ได้ผล นอกจากจะใช้หน้ากากอนามัยแล้ว ควรล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากไอ จาม หรือเช็ดน้ำมูก


ศูนย์เฉพาะกิจโรคทางเดินหายใจรุนแรงเฉียบพลัน กระทรวงสาธารณสุข
วันที่ 3 เมษายน 2546

หาอ่านได้ที่ http://www.citydd.net


By: care2home.com




สุขภาพ (Healthy)

โรคแพ้อากาศ article
เป็นพ่อแบบไหน ลูกวัยรุ่น จึงจะไม่มีปัญหา article
คำพูดเปรียบเหมือนนำผึ้งหรือยาพิษ article
อาหารเพื่อสุขภาพ article
เตรียมตัวเสียสาว article
สอนลูกเรื่องเซ็กซื สอนเด็กเรื่องรัก article
สุขภาพจิตดี เมื่อมีเพื่อนและลูกหลาน article
วัคซีนป้องกันโรคมะเร็ง(HPV)
ทำอะไร? หลังเกษียณ
ส่วนประกอบ อาหารเสริมพลังชาย
ยืดการตาย จากการเป็นมเร็ง
โสม (Ginseng)
กาแฟ (coffee)
ฝากท้องเร็วไว ก่อน 3 เดือนรก แจกรางวัล
Maca
ไข้หวัดนก article
บทความเพื่อสุขภาพ article
สุขภาพมีความสำคัญกับการพัฒนาประเทศอย่างไร article
อาหารเสริมเพิ่มพลังเซ็กซ์ article
รู้ว่ามีกลิ่นปาก ทำอย่างไร article
กามตายด้านในผู้หญิง article
ตกขาวมีความสำคํญ ในสตรีจริงหรือ article
วัยรุ่น กับการมีเพศสัมพันธ์ article
ลูกสาววัย 14 อกหัก article
เทคนิค การครองชีวิตคู่ article
สร้างคุณค่า ให้เวลาแก่ครอบครัว article
เซ็กซ์ สาเหตุใหญ่ ทำให้ชีวิตคู่พัง article
วัยทองวัยแห่งคุณค่า article
lสุขบัญญัติแห่งชาติ 10 ประการ article
เครือข่ายสุขภาพ article
ความรัก คือ อะไร ??? article
พ่อถามลูก article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
Link :