Volvo 850 ซีดาน & แวกอนยุโรป ทรงเริ่มเพรียว

850 รถยนต์ระดับหรูขนาดกลางของวอลโว่ ที่รวมการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างไว้ด้วยกัน ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก, เครื่องยนต์, ระบบขับเคลื่อน และระบบความปลอดภัย เปิดตัวสู่ตลาดโลกในปี 1991 จากนั้นอีกประมาณ 2 ปี จึงเริ่มทำตลาดในไทยพร้อมกันทั้งรุ่นซีดาน 4 ประตู และสเตชันแวกอน 5 ประตู



พลิกจากเดิมที่เป็นเหลี่ยมสันทรงทื่อ สู่ความโค้งมนกลมกลืน แม้จะไม่ปราดเปรียวเหมือนรุ่นใหม่ๆ แบบในปัจจุบัน แต่ก็นับเป็นวอลโว่รุ่นแรกๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์อย่างมาก

ฝากระโปรงหน้าลาดต่ำและโค้งลงเป็นชิ้นเดียวกับกรอบสำหรับติดตั้งกระจังแบบซี่ตั้ง ซึ่งเสริมความหรูด้วยโครเมียมพร้อมสัญลักษณ์วอลโว่ ไฟหน้าทรงเหลี่ยมเตี้ยรับกับไฟเลี้ยวขาวตามสมัยนิยม

ตัวถังด้านข้างถูกคาดไว้ด้วยคิ้วกันกระแทกสีดำต่อเนื่องตลอดคัน ไฟท้ายขนาดใหญ่เป็นแบบ 3 ชั้น แถวกลางเป็นไฟเลี้ยวแบบโคมเหลืองและไฟถอยหลัง ฝากระโปรงหลังเปิดได้จรดแนวกันชน ตรงกลางเป็นช่องใส่ป้ายทะเบียน ประกบข้างด้วยทับทิมสะท้อนแสงทรงตั้ง

มิติตัวถังภายนอกของรุ่นซีดาน มีความยาว 4,660 มิลลิเมตร กว้าง 1,760 มิลลิเมตร สูง 1,400 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,670 มิลลิเมตร น้ำหนักตัวรถ 1,375 กิโลกรัม

ภายในตกแต่งอย่างหรูหราตามแบบฉบับรถยนต์นั่งชั้นดี ปลอดภัยด้วยแอร์แบ็กฝั่งผู้ขับ และแอร์แบ็กด้านข้างสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า ซึ่งวอลโว่คิดค้นขึ้นเป็นรายแรก

ก่อนหน้านี้รถยนต์ระดับหรูทุกรุ่นของวอลโว่ในตลาดโลก รวมทั้งในเมืองไทย ใช้เครื่องยนต์วางตามยาวขับเคลื่อนล้อหลังมาตลอด 850 เป็นรุ่นแรก ที่เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์วางตามขวาง ขับเคลื่อนล้อหน้า

บุกไทยด้วยขุมพลังบล็อก บี ล้วนๆ แตกต่างที่รายละเอียดปลีกย่อย เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 5 สูบ ทวินแคม 20 วาล์ว ความกว้างกระบอกสูบ 81 มิลลิเมตร ช่วงชัก 90 มิลลิเมตร ความจุ 2,319 ซีซี พร้อมแคตตาลิติก คอนเวอร์เตอร์ และแลมดา ซอนด์

เริ่มทำตลาดด้วยรุ่นซีดาน 850 จีแอลที (ที ของรถยนต์รุ่นนี้ไม่ได้หมายความว่ามีเทอร์โบ) วางเครื่องยนต์รหัส บี 5234 เอฟเอส จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดแอลเอช-เจตทรอนิกส์ อัตราส่วนการอัด 10.5 : 1 กำลังสูงสุด 120 กิโลวัตต์ หรือ 163 แรงม้า (PS DIN) ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 21.9 กก.-ม. ที่ 3,300 รอบ/นาที



ทำตลาดคู่กับรุ่นเทอร์โบ ที่มีทั้งแบบซีดานและสเตชันแวกอน 5 ประตู ที่วอลโว่เรียกว่ารุ่นเอสเตท เป็นเครื่องยนต์รหัส บี 5234 เอฟที จ่ายน้ำมันฯ ด้วยระบบหัวฉีดโมโทรนิค 4.3 เพิ่มระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จ ลดอัตราส่วนการอัดลงเหลือ 8.5 : 1 มีกำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 166 กิโลวัตต์ หรือ 225 แรงม้า (PS DIN) ที่ 5,280 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 30.6 กก.-ม. ที่ 1,980-5,280 รอบ/นาที

ระบบส่งกำลังของทุกรุ่น มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรืออัตโนมัติ 4 จังหวะพร้อม 3 โปรแกรมขับเคลื่อน

ระบบบังคับเลี้ยวแบบแร็กแอนด์พิเนียนพร้อมเพาเวอร์ ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบสปริงสตรัต ด้านหลังกึ่งอิสระ เดลตาลิงก์ ระบบเบรกแบบดิสก์ 4 ล้อพร้อมเอบีเอส



รุ่นจีแอลอีและจีแอลที ล้อแม็ก 6.5 x 15 นิ้ว ยางขนาด 195/60VR15 ส่วนรุ่นเทอร์โบล้อแม็กขนาด 205/50VR16 ประกบกับล้อแม็ก 6.5 x 16 นิ้ว

หลังจากนั้นก็เพิ่มรุ่นประหยัด จีแอลอี อุปกรณ์มาตรฐานภายในมีน้อยกว่า เช่น เบาะเป็นแบบหนังแซมผ้า เบาะนั่งปรับไฟฟ้าเฉพาะฝั่งผู้ขับ ใช้เครื่องยนต์รหัส บี 5234 เอฟเอส เหมือนรุ่นจีแอลที รุ่นซีดานมีทั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะหรืออัตโนมัติ 4 จังหวะ ส่วนรุ่นสปอร์ตสวากอน อเนกประสงค์ 5 ประตู มีเฉพาะเกียร์อัตโนมัติ ใช้ล้อแม็กขนาด 6.5 x 15 นิ้ว ยางขนาด 195/60VR15

ประมาณปี 1996 ก็เปิดตัวรุ่น ที-5 ซีดาน และสปอร์ตสวากอน (ตัวถังสเตชันแวกอน 5 ประตู) ใช้เครื่องยนต์บล็อกเดียวกับรุ่นเทอร์โบ แต่มีกำลังสูงสุดเหลือ 160 กิโลวัตต์ หรือ 218 แรงม้า (PS DIN) ที่ 5,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 30.57 กก.-ม. ที่ 2,000-5,100 รอบ/นาที มีเฉพาะเกียร์อัตโนมัติ ให้ล้อแม็กขนาด 6.5 x 16 นิ้ว ยางขนาด 205/50ZR16

ในปี 1997 ก็มีรุ่นพิเศษ 850อาร์ ทั้งแบบซีดานและแวกอน ใช้เครื่องยนต์บล็อกเดียวกับรุ่นเทอร์โบ แต่มีกำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 250 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 30.57 กก.-ม. และมีจำนวนจำกัดเพียง 48 คันเท่านั้น

การทำตลาดของ 850 มีการปรับโฉมครั้งแรกช่วงปี 1994 โดยเปลี่ยนชุดไฟท้ายเป็นสไตล์ใสอมดำ BLACK LOOK พร้อมเปลี่ยนแผงทับทิมด้านหลังเป็นแบบชิ้นเดียว

ประมาณปี 1997 ก็มีการปรับโฉมครั้งใหญ่ทั้งรุ่นซีดานและสเตชันแวกอน เพิ่มความโค้งมนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จนแปลกตาไปมาก พร้อมเปลี่ยนชื่อรุ่นเป็น S70 และ V70 ตามลำดับ และยังมีการทำตลาดต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

จุดเด่นของรถยนต์รุ่นนี้ก็คล้ายกับวอลโว่ทุกรุ่น คือ ราคามือสองถูกกว่าคู่แข่งระดับเดียวกันปีเดียวกันอยู่เป็นแสนบาท หรือในวงเงินเท่ากัน ถ้าซื้อวอลโว่จะได้ปีใหม่กว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความนิยมในตลาด และราคาอะไหล่

รูปลักษณ์ภายนอกแม้จะดูทันสมัยขึ้น แต่ก็ยังติดภาพพจน์เก่าๆ ว่าเป็นรถยนต์เหมาะสำหรับคนมีอายุ เครื่องยนต์มีกำลังมากกว่ารุ่นก่อนๆ ถ้าไม่คาดหวังมากเกินไปก็คงไม่บ่นว่าอืด ช่วงล่างและดิสก์เบรก 4 ล้อที่มีเอบีเอส ให้ความมั่นใจพอสมควร ถ้าไม่ขับรุนแรงเกินไป ภายในกว้างขวางเพียงพอสำหรับ 5 ที่นั่ง อุปกรณ์มาตรฐานที่จำเป็นก็มีให้ครบ

แม้จะลบจุดด้อยด้านรูปลักษณ์และสมรรถนะออกไปได้เกือบหมด แต่ก็ยังมีเรื่องสำคัญที่น่าเป็นห่วง คือ ความแพร่หลายและราคาอะไหล่ ที่ต้องพึ่งของใหม่เป็นหลัก แม้ในศูนย์บริการจะมีครบทุกชิ้น และมีการรับประกันคุณภาพ แต่ถ้าจะซื้อจากศูนย์ฯ ตลอดคงกระเป๋าเบา ส่วนแหล่งอะไหล่นอกศูนย์ฯ ที่วรจักรก็มีหลายร้าน นอกนั้นก็มีประปรายรอบเมือง สามารถเทียบใช้ได้พอสมควร



การซ่อมบำรุงระบบพื้นฐานทั่วไป สามารถใช้บริการตามอู่ทั่วไปที่ได้มาตรฐาน แต่ต้องระวังช่างบวกค่าอะไหล่จนกลายเป็นซ่อมแพงหนักขึ้นไปอีก ถ้าเป็นระบบที่ซับซ้อนหรือต้องใช้เครื่องมือเฉพาะ จึงค่อยเข้าศูนย์บริการหรืออู่วอลโว่โดยเฉพาะ

ก่อนซื้อควรถามตัวเองก่อนว่า คาดหวังด้านความแรงไว้แค่ไหน และควรทดลองขับนานๆ ให้แน่ใจจริงๆ เพราะถ้าซื้อมาแล้วอยากแรงเพิ่ม ก็ต้องเสียเงินอีกหลายหมื่นบาท และไม่คุ้มค่า

ถ้าไม่แน่ใจก็ควรเลือกรุ่นเทอร์โบ เกียร์อัตโนมัติ เพราะราคามือสองต่างกันไม่มาก นอกจากจะชอบเกียร์ธรรมดาจริงๆ หรือใช้งานบนเส้นทางโล่งเป็นส่วนใหญ่ ก็จะตัดความกังวลเรื่องค่าซ่อมเกียร์อัตโนมัติไปได้ และไม่ต้องกลัวว่ารุ่นเทอร์โบจะกินน้ำมันมาก เพราะรถยนต์รุ่นนี้ยังไงก็กินดุอยู่แล้ว และต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนการบำรุงรักษาก็ดูแลตามปกติ เหมือนเครื่องยนต์ทั่วไป ไม่มีอะไรยุ่งยาก เพราะเป็นเทอร์โบจากโรงงาน

ถ้าเลือกรุ่นเทอร์โบ ควรเพิ่มความรอบคอบในการตรวจสอบสักนิด เพราะเจ้าของเดิมคงไม่ซื้อมาขับช้าๆ แน่ เท้าคงหนัก โดยเลือกที่ตัวถังไม่ช้ำจากการชนหนัก เครื่องยนต์และช่วงล่างไม่หลวม และถ้าสนใจเกียร์อัตโนมัติ ก็ต้องทดลองขับและสังเกตดูว่า เกียร์เปลี่ยนได้อย่างนุ่มนวล และทำงานครบทุกจังหวะหรือไม่ เพราะถ้าเสียต้องซ่อมแพง

วอลโว่ 850 รถยนต์ยุโรปมือสองราคาไม่แพง รูปลักษณ์ภายนอกทันสมัยขึ้น ภายในหรูหรากว้างขวาง อุปกรณ์มาตรฐานเพื่อความสะดวกและความปลอดภัย มีให้แบบครบๆ เครื่องยนต์มีกำลังมากขึ้น ช่วงล่างและเบรกไว้ใจได้ ระบบขับเคลื่อนล้อหน้ายุคใหม่ที่ทนทาน ติดแค่เรื่องอะไหล่เท่านั้น ที่มีราคาแพงในบางชิ้น และถือว่าแพงกว่ารถยนต์ยุโรประดับเดียวกันพอสมควร

เอื้อเฝื้อข้อมูลโดย คุณ วรพล สิงห์เขียวพงษ์ ขอบคุณครับ