ตารางการเปรียบเทียบการใช้ T8 และ LED
ตารางการเปรียบเทียบอุปกรณ์ประหยัดพลังงานไฟฟ้าประเภทส่องสว่าง
ของบริษัท พี.เอส.เจ.เอเนอร์จีเซฟ จำกัด กับการใช้ T8 และ LED
รายละเอียด: การเปรียบเทียบจะเปรียบเทียบจากตัวแปรตั้งต้นที่เท่ากันคือ ค่าลูเมนต่อวัตต์
กำลังสูญเสียบัลลาสต์/หลอด
จำนวนวันที่เปิดใช้งาน/เดือน
จำนวนไฟฟ้าที่ใช้ทั้งหมด (kWh/เดือน)
ระบบ T8 36W + บัลลาสต์แกนเหล็ก
ระบบ T8 36W บัลลาสต์แกนเหล็ก +อุปกรณ์ควบคุมแสงสว่าง (P.S.J.) ลดพลังงานลงได้ 50%
1 หลอดของ LED T8 - 20W หากจะได้แสงเท่ากับ T8 จะต้องใช้ที่ 2 หลอด ถึงจะได้รับความเข้มแสงที่ใกล้เคียงกันคือ 3,200 ลูเมน/วัตต์
*กำลังสูญเสียของหลอด LED มีเช่นกันเนื่องจาก LED ไม่สามารถต่อโดยตรงกับไฟ 220V หรือไฟทั่วไปได้ ต้องมี Power Supply แปรจาก AC เป็น DC ลักษณะการทำงานเหมือนกับ Adapter ของโน๊ตบุค ซึ่งจะบรรจุอยู่ในโคม โดยกำลังสูญเสียนั้นประมาณ 20-30% ขึ้นอยู่กับคุณภาพของ LED
*LED จะอ้างอิงว่ามีอายุงานใช้งาน 50,000 ชั่วโมง แต่เป็นอายุงานใช้งานจากมาตรฐานการลดลงของแสงที่ LM 50 แต่หากเป็นมาตรฐานเดียวกันกับ FL T8 มาตรฐานจะเป็น LM 90 ดังนั้นเมื่อคิดที่ LM มาตรฐานเดียวกันอายุการใช้งานของ T8 และ LED จะมีค่าที่เทียบเท่ากัน
ความถูกต้องของสีของ T8 มีความผิดเพี้ยนน้อยกว่า LED ซึ่งจะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับการคุณภาพการผลิตและวิธีการผลิตของหลอด LED
หลอด LED T8 TUBE รุ่น T8 – 20W อยู่ที่ หลอดละ 1,500 บาท อ้างอิงราคาจาก: บริษัท เรเซอร์การไฟฟ้า จำกัด หรือ หลอด LED SIGNEX อยู่ที่ 1,790 บาท อ้างอิงราคาจาก: บริษัท L&E จำกัด
เมื่อคิดเป็นจุดคุ้มทุนแล้วจะเห็นว่าจากการปรับเปลี่ยนจากระบเดิมมาเป็นระบบ LED นั้นจุดคุ้มทุนสูงมาก ทั้งนี้เรายังต้องคำนึงถึงข้อจำกัดของ LED อีกด้วย
สรุปได้ว่า :
เทคโนโลยีที่มาใหม่ไม่จำเป็นต้องดีกว่าเทคโนโลยีเดิมเสมอไปบางเทคโนโลยีอาจเกิดขึ้น ซึ่งการเลือกใช้งานขึ้นอยู่จุดประสงค์การใช้ หรือความเหมาะสมของพื้นที่การใช้งานจากระบบเดิมที่ดีอยู่แล้ว เราสามารถควบคุม หรือ จัดสรรพลังงานที่มีใช้งานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการบริหารจัดการ ซึ่งเป็นหัวใจของการประหยัดพลังงานที่ยั่งยืน ทาง PSJ จึงมุ่งเน้นการจัดการพลังงานตามพื้นที่ และตามการใช้งานจริง ควบคุมพลังงานที่ไม่จำเป็นหรือส่วนเกินออก โดยมีมาตรฐานความสว่างและความปลอดภัยเป็นที่ตั้งและไม่มีผลต่อยอดขาย และการปฏิบัติการ
หมายเหตุ : การเปรียบเทียบข้างต้นนี้เป็นการเปรียบเทียบจากราคามาตรฐาน (Ex-VAT 7%)และสินค้าที่มีคุณภาพเทียบเท่ากัน และเป็นคุณสมบัติสามารถตรวจสอบได้ในข้อกำหนดทางเทคนิค
จุดแข็งและจุดบกพร่องของ LED
S |
W |
กินกระแสไฟน้อยมากประมาณ 1-20mA. หลอดมีขนาดเล็ก |
ไม่สามารถต่อตรงได้กับไฟทั่วไป เนื่องจากต้องมี AC-DC Converter ซึ่งเป็นพลังงานที่สูญเสียในระบบ หลอดกินพลังงานวัตต์ต่ำเพียง 3 วัตต์ แล้วนำมาคิดค่าไฟและจุดคุ้มทุนแต่หลอดกินพลังงานวัตต์ต่อหลอดต่ำก็จริง แต่แหล่งจ่ายที่ป้อนออกยังคงจ่าย 220v/50Hz แล้วไปผ่านที่ตัวถ่วงหรือadapter เพื่อ output ที่ออกมาจะได้เหมาะสมกับหลอด LED นั่นเอง |
ตัวหลอด LED มีความร้อนน้อยจึงเหมาะในการใช้งานในตู้เย็น หรือตู้แช่เพื่อโชว์สินค้า เนื่องจากความร้อนจะถูกส่งผ่านและเก็บความร้อนที่ Heat Sink |
ปัญหาเกี่ยวกับความร้อนที่เกิดจาก LED เนื่องจากหลอด LED ที่ขายกันอยู่ แผ่นวงจรจะเป็นโลหะเคลือบพลาสติก ทำให้การระบายความร้อนอาจยังต้องใช้ Heat Sink ขนาดใหญ่ในการช่วยระบายความร้อน ความทนทานจึงอาจลดน้อยลง |
อายุการใช้งานประมาณ 50,000 - 100,000 ชั่วโมงที่ LM50 ขึ้นอยู่กับคุณภาพของ LED วงจรขับกระแส สภาพภูมิอากาศ ความชื้น และอุณหภูมิ |
แสงสว่างน้อยประมาณ 70 ลูเมน/วัตต์ หรือมากสูงสุดที่ 80 ลูเมน/วัตต์ ซึ่งราคาจะสูงมาก |
ไม่มีรังสีอินฟาเรต รังสีอัลตราไวโอเรต ซึ่งเป็นอันตรายต่อผิวหนัง หากใช้ในตู้โชว์จะไม่มี UV ทำให้สีของสินค้าซีดลงหรือกรอบลงเพราะความร้อนของหลอด |
แสงสว่างจะลดลง 30 - 50 % ในช่วงเวลา 1 - 3 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดและคุณภาพของหลอด |
มีหลากสีให้เลือกใช้ เหมาะแก่การตกแต่งเพื่อต้องการสร้างสีสัน |
ค่าบำรุงรักษาสูง เนื่องจากการเปลี่ยนหลอดต้องเปลี่ยนทั้งแผงวงจรด้วย ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นหลอดได้ |
มีความทนทานต่อการสั่นสะเทือนได้มาก จึงเหมาะกับการใช้ในรถยนต์หรือเครื่องบิน |
แต่ไม่ทนต่อความชื้น จึงไม่เหมาะสมในการใช้ภายนอกอาคาร |
Uniform ของ LED ที่ส่องกระทบพื้นผิว เมื่อต่อร่วมกันหลายๆดวง ภาพจะมีการ Glare เนื่องจากหลอดแต่ละหลอดสีเพี้ยนไม่เหมือนกัน ทำให้มองไปแล้วแสงยังคงมีความไม่สม่ำเสมออยู่ อีกทั้งองศาการกระจายแสงไม่มี ส่องได้แต่แนวตรง |
O |
T |
ตลาดที่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนเป็น LED ตามนโยบายรัฐ |
ราคาสูงเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่นๆ |
การพัฒนาของ LED อย่างต่อเนื่องทำให้ราคาอาจถูกลง |
ข้อจำกัดทางเทคโนโลยีเรื่องความร้อนใน heat sillk |
ตลาดแสงสว่างเป็นตลาดที่กว้าง |
การดูแลรักษา หรือ การซ่อมเมื่อเสียต้องเปลี่ยนยกชุด |
คุณภาพของ LED เป็นไปตามโครงสร้างราคา
|
ความเข้มของแสง Light Intensity สามารถวัดได้หลายค่า เช่น แรงเทียน lumen lux
แรงเทียน หรือ candle power มีหน่วยเป็น cd หรือ candle 1 cd หมายถึง เมื่อเราเอาแหล่งกำเนิดแสง มาวางไว้ที่กลางวัตถุทรงกลม มีรัศมี 1 ฟุต ในพื้นที่ 1 ตารางฟุตนั้น จะวัดความสว่างได้เท่ากับ 1 ฟุต-แคนเดิล ( 1 fc or หรือเท่ากับ 1 lumen/ ft2 ) อาจเรียกย่อว่า 1 lumen (lm) นั่นคือ ในพื้นที่ทรงกลม 1 ตารางฟุต จะมีเส้นแสงมาตก 1 เส้น หรือ 1 lumen
Lumen เป็นการวัด flux หรือ ว่ามีพลังงานแสงออกมาจากแหล่งกำเนิดนั้น ๆ เท่าไหร่ ในเวลาหนึ่ง ๆ ( วัดเฉพาะแสงช่วงสายตามองเห็น ไม่ใช่พลังงานทั้งหมด )
Lux เป็นการวัด illumination หรือ ความส่องสว่าง ( flux คือ พลังงานแสงที่ออกจากจุดกำเนิด แต่ illumination เป็นพลังงานแสงที่ตกกระทบตัวพื้นผิว)
หากต้องการแปลงหน่วยก็สามารถแปลงได้ง่าย ๆ คือ
1 fc ( foot-candle) = 1 lumen / ft2
1 fc = 1/10.76 lumen / m2 หรือ lux
1 fc = 0.09 lux
1 lux = 10.76 fc = 10.76 lm/ft2
Power Consumption วัดออกมาเป็น Wattage หรือ watt พูดง่าย ๆ ก็เป็น ค่าใช้จ่ายที่คุณจะต้องเสียจากการใช้หลอด มักจะสัมพันธ์กับความสว่างของหลอดไฟ ยิ่งวัตต์มาก แสงที่ได้จะเข้มกว่าวัตต์น้อย แต่ก็ไม่เสมอไป เมื่อเทียบกันกับหลอดต่างชนิดกัน ในวัตต์เท่า ๆ กันการให้ความสว่างก็ต่างกันกับหลอดแต่ละชนิด
-------------------------------------------------------------------------------------------------
ปริมาณแสง
หน่วยการวัดปริมาณแสงที่นิยมใช้ในงานวิศวกรรม คือ การวัดในรูปของเส้นแรงของแสง ซึ่งมีหน่วยเป็น ลูเมน
(Lumen) และหน่วยที่แสดงการส่องสว่าง หรือความสว่างจะใช้หน่วย ลักซ์ (Lux)
ซึ่งเป็นค่าเส้นแรงของแสงที่ตกบนพื้นที่ 1 ตารางเมตร นั่นคือ
Lux = Lumen/m2 = lm/m2
โดยการบอกค่าปริมาณแสงที่ออกมาจากหลอดใดๆ ก็จะบอกเป็นค่าลูเมน เช่น
หลอดฟลูออเรสเซนต์สี Cool White 36 W. 1 หลอด มีค่า Lumen Output ประมาณ 3,000 ลูเมน
หลอดฟลูออเรสเซนต์สี Day Light 36 W. 1 หลอด มีค่า Lumen Output ประมาณ 2,700 ลูเมน ฯลฯ
ประสิทธิภาพของหลอดไฟ จะพิจารณาจากเส้นแรงของแสงที่ออกมาจากหลอดต่อกำลังวัตต์ของหลอดไฟ บางครั้งเรียกว่า
Efficacy มีหน่วยเป็น Lumen/Watt เช่น
หลอดไส้ มีประสิทธิภาพทางแสงประมาณ 15 Lumen/W.
หลอดฟลูออเรสเซนต์ Cool White มีประสิทธิภาพทางแสงประมาณ 80 Lumen/W.
---------------------------------------------------------------------------------------------------
Lighting Measurement (มาตรการตรวจวัดแสง)
• Candela ( cd ) (ความสว่างที่เทียน 1 เล่มส่องแสงได้)
• Candle Power (CP) (ความสว่างของแสง 1 แรงเทียน)
• Footcandle ( fc ) 1 lumen / sq.ft . (ความสว่างของแสง1 ตารางฟุตที่มาจากจุดกำเนิดแสง 1 ฟุต)
• Lux (lx) 1 lumen / sq.m . (ความสว่างของแสง1 ตารางเมตรที่มาจากจุดกำเนิดแสง 1 เมตร)
• Lumen ( lm ) (เส้นแสง 1 เส้นแสงที่ออกมาจากจุดกำเนิเด 1 จุด)
• Illuminance ( E ) (ค่าความส่องสว่างของแหล่งกำเนิืดแสง)
• Luminance (L) (ค่าความสว่างของแสงที่ตกกระทบมาแล้ว)
• Footlambert ( fL) (หน่วยของแสงที่วัดไำด้)
(สัดส่วนของหน่วยมาตรวัดต่าง ๆ )
1 cd = 12.57 lm
1 fc = 10.76 lx
1 lx = 0.0929 fc
--------------------------------------------------------------------------------------------------
THE OFF:
สรุป ;D
Candle Power = แรงเทียน
- cd หรือ Candle คือ หน่วยของ Candle Power หมายความว่า ถ้าเราวางแหล่งกำเนิดแสงไว้ที่ศูนย์กลางของทรงกลม ซึ่งมีรัศมีเท่ากับ 1 ฟุต ที่ผิวของทรงกลมขนาด พื้นที่ 1 ตารางฟุต จะวัดความสว่างได้เท่ากับ 1 ฟุต-แคนเคิล (สามารถใช้ "fc" แทน ฟุต-แคนเคิล) หรือเท่ากับ 1 ลูเมนต่อ ตารางฟุต ถ้าจะพูดเป็นภาษาง่าย ๆ ก็จะพูดได้ว่าที่ผิวของทรงกลมขนาดพื้นที่ 1 ตารางฟุต มีเส้นแสงมาตกเพียง 1 เส้น หรือ 1 ลูเมน (สามารถใช้ "lm" แทนลูเมนได้)
- ตอนนี้ก็ทราบแล้วว่า 1 Candle ก็คือ "ที่ระยะ 1 ฟุตจะมี
เส้นแสงเพียงเส้นเดียวตกลงบนพื้นที่ผิวขนาด 1 ตารางฟุต
- แต่เนื่องจากว่า แหล่งกำเนิดแสงกระจายเส้นแสงทุกทิศทาง(360 องศา) ก็เลยอยากรู้ว่า 1 Candle มีเส้นแสงกี่เส้น ก็ต้องทราบขนาดพื้นที่ผิวของทรงกลม รัศมี 1 ฟุต ว่ามีค่าเท่ากับกี่ตารางฟุต
พื้นที่ผิวทรงกลม = 4 X Pi X r2
โดยที่
Pi = 22 / 7
r = 1
จะได้
พื้นที่ผิวทรงกลม = 4 X 22 / 7 X 12
= 12.57 ตารางฟุต
- จากทรงกลม รัศมี 1 ฟุตทราบแล้วว่า 1 ตารางฟุต มีเส้นแสงมาตก 1 เส้น หรือ 1 lm (ลูเมน) ก็จะได้ว่า ที่พื้นที่ผิว โดยรอบขนาด 12.57 ตารางฟุต ก็จะมีเส้นแสง มาตก 12.57 lm
จะได้ว่า 1 cd = 12.57 lm
จากสิ่งที่เราพอจะทราบมาแล้วว่า 1 เมตร = 3.28 ฟุต
1 ตารางเมตร = 10.76 ตารางฟุต
เรามาลองเปรียบเทียบความสว่างที่มีหน่วยเป็นลูเมนต่อพื้นที่ 1 fc (ฟุต-แคนเคิล) = 1 lm/ft2 (ลูเมนต่อตารางฟุต)
จะปรับให้เป็นระบบ SI จะได้ว่า 1 fc (ฟุต-แคนเคิล) = 1 / 10.76 lm/m2 (ลูเมนต่อตารางเมตร)
หรือ lux (ลักซ์)
คือแปลงตารางฟุตเป็นตารางเมตร จะได้ว่า
1 fc = 0.09 lux ( ลักซ์ ) หรือ 0.09 ลูเมน ต่อ ตารางเมตร
1 lux = 10.76 fc ( ฟุต - แคนเดิล ) หรือ 10.76 ลูเมน ต่อ ตารางฟุต