สุขภาพ มีความสำคัญกับการพัฒนาประเทศ อย่างไร?
"สุขภาพ"มีความสำคัญกับการพัฒนาประเทศอย่างไร
สุขภาพกับการพัฒนาประเทศ
ประเทศที่มีพลเมืองมีสุขภาพดี มีสติปัญญา ตลอดจนมีคุณธรรม จริยธรรม ที่เอื้ออำนวยให้คนในสังคมมีความสามารถในการประกอบอาชีพ เพื่อเลี้ยงตนเองและครอบครับครัวได้ ตลอดจนสามารถส่งเสริมสนับสนุนให้บุคคลอื่น ๆ ให้มีความเจริญก้าวหน้าได้ด้วย ไม่เกิดการทำร้ายเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ชุมชนนั้นย่อมเกิดความสุข ซึ่งย่อมมีผลตอบสนองให้แต่ละบุคคลในชุมชนนั้นมีอิสรภาพในการดำรงชีวิตประจำวันได้อย่างราบรื่นสามารถทำให้เกิดการพัฒนาของประเทศได้ไม่ยาก บุคคลที่มีสุขภาพกายและจิตที่ดี มีสมองที่มีศักยภาพ ย่อมเป็นผู้ที่มีความสามารถในการเรียนรู้ได้ง่ายทั้งจากประสบการณ์ชีวิตและการศึกษาเล่าเรียนอย่างเป็นทางการ ทำให้เกิดการคิดอย่างมีเหตุผล ย่อมส่งผลให้มีการคิดอย่างสร้างสรรค์ เอื้ออำนวยต่อการฝึกทักษะด้านต่าง ๆ ทั้งด้านสุขภาพ และ ที่เป็นประโยชน์ในการดำรงชีพในสังคมให้มีการเจริญก้าวหน้า เมื่อสังคมมีความสงบสุข ประชาชนมีสุขภาพดี การพัฒนาประเทศในด้านต่างๆย่อมจะทำได้ในเวลาที่รวดเร็วขึ้นและกระทำได้โดยง่าย
บุคคลที่มีสุขภาพดี จะเป็นผู้ที่ไม่เจ็บป่วยง่าย สามารถทำกิจวัตรประจำวันของตนเองและครอบครัวได้อย่างเป็นปกติ ประกอบอาชีพได้เต็มกำลังความสมารถ ร่างกายไม่อยู่ในสภาวะที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคหรือเจ็บป่วยได้ง่าย ร่างการมีความต้านทานโรคสูงสามารถปรับตนเองทั้งด้านร่างกายและสภาวะด้านจิตใจให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมเป็นอย่างดี มีการรู้จักป้องกันตนเองไม่ให้ประสบอุบัติเหตุอุบัติภัยต่าง ๆ อีกทั้งรู้จักการส่งเสริมสุขภาพให้กับตนเอง หมายถึงการบำรุงรักษาร่างกายให้มีการกินดี อยู่ดี การมีที่อยู่อาศัยที่สะอาด มีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีมลพิษต่าง ๆในสิ่งแวดล้อม รู้จักการรักษาอนามัยส่วนบุคคล รักษาความสะอาดของร่างกาย รับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ จำนวนเพียงพอ มีการออกกำลังกายตามความเหมาะสม
จึงจะเห็นได้ว่าในการพัฒนาประเทศนั้น ลำดับแรกจะต้องมีการพัฒนาคน หรือประชาชนในชาติซึ่งเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง จุดเริ่มต้นของการพัฒนาจึงมุ่งไปที่การที่ชุมชนจะต้องสร้างให้เกิดศักยภาพความเข้มแข็งของชุมชน ในการพัฒนาด้านความรู้ สุขภาพ และการมีส่วนร่วมของชุมชน นอกจากสุขภาพมีความสำคัญในการพัฒนาตนเอง เพื่อความเป็นอยู่อย่างสุขสบาย ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และในชุมชนที่ประชาชนมีสุขภาพดีก็จะมีความเจริญและเข้มแข็งแล้ว สุขภาพของคนในชุมชนยังมีความเชื่อมโยงกับระบบอื่นของประเทศซึ่งมีทั้งผลดีและผลเสียต่อระบบต่าง ๆ ดังนี้
1.ระบบกับการศึกษา คนที่มีสุขภาพดี มีความสมบูรณ์ทั้งทางร่างกายและจิตใจย่อมมีโอกาสได้รับการศึกษาที่ดีมีการพัฒนาตนเอง และเมื่อมีการศึกษาดีแล้วทำให้รู้จักระวังรักษาสุขภาพอนามัยของตนเอง ครอบครัว ตลอดจนการให้คำแนะนำแก่คนในชุมชนที่อยู่ใกล้ชิด ทำให้มีการสร้างสุขนิสัยที่ดี
2. ผลผลิตทางด้านการเกษตร การที่ประชาชนมีสุขภาพดี ไม่มีโรคภัยทำให้การใช้แรงงานในภาคเกษตรกรรมดำเนินการได้อย่างเต็มที่ และมีประสิทธิภาพ ทำให้ได้ผลผลิตมาก ในบางครั้งสภาพแวดล้อมทางการเกษตรที่เป็นบ่อนทำลายสุขภาพ เช่นการสร้างเขื่อนทำให้สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปบางครั้งทำให้เกิดโรคได้ง่าย หรือการใช้สารเคมี ยากำจัดวัชพืช ยาฆ่าแมลง ที่มีอันตรายต่อสุขภาพ บางครั้งมีการใช้เครื่องจักรกลทำให้เกิดอุบัติเหตุมากขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ย่อมส่งผลให้ภาวะสุขภาพของประชาชนไม่ดี ย่อมส่งผลให้ผลิตผลทางการเกษตรลดลง ส่งผลกระทบต่อผลผลิตของประเทศ
3. ระบบเศรษฐกิจ เมื่อประชาชนมีสุขภาพดีสามารถประกอบอาชีพได้เป็นปกติ มีรายได้สำหรับใช้จ่ายในครอบครัว ครอบครัวไม่ต้องเป็นภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทำให้ครอบครัวมั่นคง ประเทศชาติไม่ต้องเสียดุลการค้ากับต่างประเทศ เพราะไม่ต้องสั่งซื้อยาและเวชภัณฑ์เพื่อใช้ในการรักษาประชาชน แต่หากประชาชนมีสุขภาพไม่ดี ย่อมจะเป็นปัญหาในการหารายได้เลี้ยงครอบครัว ต้องเป็นภาระของครอบครัว ญาติพี่น้อง ประเทศชาติต้องสูญเสียงบประมาณในการรักษาพยาบาล บางครั้งทำให้เสียดุลการค้า เพราะยาและเวชภัณฑ์หลายชนิดที่ประเทศไทยต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
4. ระบบบริการสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุขได้วางแผนในการแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพอนามัยมาโดยตลอด ตั้งแต่แผนพัฒนาสาธารณสุขแห่งชาติฉบับที่ 1 ปัจจุบัน มีการขยายสถานบริการ ปรับเปลี่ยนโครงสร้างหน่วยงาย การเพิ่มอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ และอื่น ๆ อีกมากมาย และใช้งบประมาณในการดำเนินการแต่ละปีเป็นจำนวนมาก หากการดำเนินงานดังที่ผ่านมาบรรลุตามวัถุประสงค์ ประชาชนมีสุขภาพดีและมีการพึ่งตนเองทางด้านสุขภาพได้ในระดับหนึ่งแล้ว การจัดบริการด้านสาธารณสุขอาจต้องทบทวนบทบาทภารกิจ การเปลี่ยนแปลงระบบการบริการ รัฐอาจเป็นเพียงผู้ให้การสนับสนุน แนะนำ การใช้งบประมาณด้านสาธารณสุขและสุขภาพจะลดลง
กล่าวโดยสรุป สุขภาพของคนในชาติเป็นสิ่งจำเป็นที่รัฐต้องมีการวางแผนและจัดการให้คนในชาติทุกคนมีสภาวะสุขภาพที่สมบูรณ์ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ถึงแม้การดำเนินงานจะเป็นไปอย่างเชื่องช้า แต่รัฐบาลทุกคณะที่ผ่านมาก็ปรารถนาที่จะให้ประชาชนทุกคนมีสุขภาพอนามัยในระดับสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถือว่าเป็นสิทธิขั้นมูลฐานของมนุษยชน อันปรากฏอยู่ในธรรมนูญขององการอนามัยโลกและยังเป็นเป้าหมายที่จะพัฒนาต่อไป ตามคำขวัญขององค์การอนามัยโลกที่ว่า Health For All By The Year 2000แปลเป็นภาษาไทยว่า
สุขภาพดีถ้วนหน้าเมื่อปี 2543 ซึ่งประเทศไทยเป็นสมาชิกขององค์การอนามัยโลกและได้นำแนวทางดังกล่าวมาดำเนินการจนถึงปัจจุบันทำให้ประชาชนในชาติมีสุขภาพดีในระดับหนึ่ง และจะพัฒนาให้คนในชาติมีคุณภาพชีวิตที่ดี (Quality Of Life) ในระยะต่อไปเพื่อความเจริญและมั่นคงของประเทศชาติ
สุขภาพ เป็นสมบัติประจำตัวของมนุษย์ และเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน ผู้อื่นจะหยิบยื่นให้ แลกกัน หรือทำแทนกันไม่ได้ ดังนั้น ประชาชนแต่ละคนจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ขวนขวายทะนุบำรุง และรักษาสุขภาพของตนเองให้มีความสมดุล ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เสาะหาแนวทางที่เหมาะสมมาปฏิบัติ เพื่อให้มีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขทั้งภายในครอบครัวและภายในสังคม อย่างไรก็ดี คนเรายังคิดไม่ถึงหรือมองไม่เห็นว่าสุขภาพเป็นสมบัติส่วนบุคคลแล้ว จะทำให้เขาเหล่านั้น ดูแลเอาใจใส่ตนเองอย่างเพียงพอ หรือดูแลเอาใจใส่สุขภาพตนเองอย่างดีที่สุด
ยังมีความเชื่อว่า การที่สุขภาพดีนั้น จำเป็นต้องอาศัยผู้อื่นเป็นหลักในการช่วยเหลือ หรืออาจจะเรียกได้ว่า ต้องยืมจมูกคนอื่นมาหายใจ ก็อาจจะมีผลกระทบให้บุคคลนั้น ๆ มีสุขภาพไม่ดีเท่าที่ควร ร่างกายไม่แข็งแรงหรือมีอาการทุพพลภาพเกิดขึ้นได้ ซึ่งอาจจะรวมหรือไม่รวมถึงการมีจิตใจ อารมณ์หรือความรู้สึกนึกคิดที่ผิดไปจากปกติหรือคนธรรมดา เป็นสาเหตุให้บุคคลซึ่งอยู่ในสภาพดังกล่าว มีความยากลำบากในการปรับตัวเองให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม หรือชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นสุข ไม่สามารถประกอบอาชีพให้เกิดผลได้อย่างเต็มที่ และถ้าหากว่าสุขภาพมีความเสื่อมโทรมมาก ก็จะสร้างความยากลำบากให้แก่ครอบครัวและเป็นภาระแก่สังคมด้วย
ส่วนบุคคลที่มีสุขภาพทางจิตผิดปกตินั้น ก็จะมีปัญหาเช่นเดียวกับผู้ที่มีสุขภาพทางกายไม่ดี และยังอาจเป็นอันตรายต่อสังคมโดยการประพฤติปฏิบัติไม่ชอบธรรมต่างๆ เช่น การติดสารเสพติด ประพฤติตนเป็นอันธพาล ก่อกวนความสงบของสังคม หรือกรระทบการอันเกี่ยวกับอาชญากรรม ซึ่งเป็นผลร้ายต่อทรัพย์สินหรือชีวิตผู้อื่นก็ได้ บุคคลบางคนสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมได้เป็นอย่างดี ตามสายตาของบุคคลภายนอก แต่บุคคลเหล่านั้นอาจจะมีความยากลำบากในการปรับความรู้สึกภายในจิตใจของตนเอง ทำให้เกิดควาขัดแย้งขึ้นภายในจิตใจ และอารมณ์เช่น มีความทุกข์กังวลใจ หวาดกลัว หวาดระแวง ก็อาจทำให้กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ซึ่งถ้าปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อย ๆ หรือมีระยะยาวนาน ก็จะเกิดผลเสียต่อสุขภาพทางกายไปด้วย เช่น เกิดอาการเป็นโรคกระเพาะอาหาร โรคภูมิแพ้ และโรคอื่น ๆ อีกได้เช่นกัน
ดังนั้น จึงพอสรุปได้ว่า การที่คนเรามีสุขภาพดี ทั้งทางกายและทางจิตใจนั้น ย่อมทำให้เราเป็นบุคคลหรือประชาชนที่เป็นทรัพยากรที่มีคุณภาพของสังคม มีความสาสมารถในการดูแลตนเองและครอบครัว ตลอดจนมีความสามารถที่จะร่วมมือกับคนอื่นๆ ในการสร้างและทะนุบำรุงสังคม รวมทั้งการช่วยกันสร้างเสริมความมั่นคงและความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติได้เป็นอย่างดี
หาอ่านได้ที่..
www.citydd.net