ReadyPlanet.com
dot dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot


แสนสุขวิล่าปูดำ
HONDA CIVIC 2016
HONDA CITY ALL NEW 2016
PAJERO SPORT 2.4 GLS
VOLVO  XC70  2.3AT 20valve


กาแฟ (coffee)

Coffee  ส่วนประกอบ

                ครีมเทียม        79%
                กาแฟ              16%
               ซูคราโคส        3%
               โสมสกัด         1%
               คลอลาเจน     1%
 
ประโยชน์ของ คอลลาเจน
คอลลาเจน ( Collagen ) มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก คือ Kolla ซึ่งแปลว่ากาว
คอลลาเจน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ประสานกันเป็นเส้นใยอยู่ใต้ชั้นผิวหนังแท้ ทำหน้าที่ เสริมความเรียบตึงให้แก่ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังดูเรียบ เนียน
ในวัยเด็ก คอลลาเจน ยังไม่เสื่อมสลายและมีจำนวนมาก จึงทำให้เห็นว่าเด็ก ๆ หรือวัยรุ่นที่กำลังแตกเนื้อหนุ่มสาวมีผิวหนังที่เต่งตึง แต่เมื่อมีวัยมากขึ้น เส้นใย คอลลาเจน เหล่านี้จะเสื่อมสลายและมีปริมาณลดลง ทำให้ชั้นผิวหนังยุบตัวลง อันเป็นต้นเหตุของความเหี่ยวย่นและริ้วรอย ยิ่งสูงวัยขึ้นเท่าใด ริ้วรอยแห่งวัยก็เห็นชัดขึ้นเท่านั้น ริ้วรอยแรกที่มาเยือนที่เป็นที่รู้จักกันดีก็คือ รอยตีนกา เนื่องจากผิวหนังรอบดวงตามีความบอบบางมาก อีกทั้งกล้ามเนื้อรอบดวงตาก็เป็นกล้ามเนื้อวงกลม ไม่มีอะไรยึด ผิวรอบดวงตาก็เลยจะเหี่ยวมากกว่าที่อื่น

อย่างไรก็ตาม เราสามารถเสริมสร้าง คอลลาเจน ให้แก่ร่างกายได้เพื่อลดรอยเหี่ยวย่น ด้วยการรับประทาน คอลลาเจน หรือ วิธีการฉีด คอลลาเจน เข้าใต้ชั้นผิวหนังแท้ แต่วิธีการฉีดนั้นค่อนข้างจะยุ่งยาก เพราะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นวิธีการรับประทานจึงเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด

คอลลาเจน มีส่วนช่วยในการป้องกันอวัยวะในร่างกาย และเชื่อมอวัยวะต่างๆ ให้อยู่ด้วยกัน ช่วยให้โครงสร้างของร่างกายแข็งแรง และยืดหยุ่นดี ช่วยให้ข้อต่อต่างๆ ขยับเคลื่อนไหวไปมาไม่ติดขัด โดยเฉพาะข้อต่อในการรับน้ำหนักและขยับเคลื่อนไหวในอิริยาบถต่างๆ เช่นเดินหรือวิ่ง เป็นต้น
นอกจากนี้คอลลาเจนยังเป็นตัวช่วยให้ผิวพรรณเกิดความชุ่มชื้น เสริมความเรียบตึงให้กับผิวหนัง ทำให้ผิวดูเรียบเนียนกระชับ โดยทำงานคู่กับโปรตีนอีกชนิดหนึ่งที่ชื่อ “ อิลาสติน ” ( Elastin ) ในขณะที่ คอลลาเจน มีหน้าที่เสมือนโครงร่างผิว อีลาสติน ก็ทำหน้าที่ให้ความยืดหยุ่นแก่ผิว ควบคู่กันไปด้วย
ร่างกายของคนเรานั้นจะมี คอลลาเจน หนาแน่นในวัยเด็ก และจะค่อยๆ เสื่อมสภาพลงตามกาลเวลา จึงเห็นได้ว่าเมื่ออายุมากขึ้น เส้นใยคอลลาเจน เหล่านี้จะเสื่อมสลาย ทำให้ชั้นผิวหนังยุบตัวลงอันเป็นสาเหตุของความเหี่ยวย่นและริ้วรอย รวมถึงการเกิดปัญหาข้อเสื่อม กระดูกเสื่อม อันเนื่องมาจาก คอลลาเจน ใน กระดูก ลดลง ทำให้ กระดูก ไม่สามารถรับน้ำหนักได้ ขาดความยืดหยุ่น เปราะหักง่าย เป็นต้น
โดยพบว่าคนที่มีอายุ 25 ขึ้นไป จะมีปริมาณ คอลลาเจน ลดลงทุกปี ปีละ 1.5% อย่างไรก็ตาม เราสามารถเสริมสร้าง คอลลาเจน ให้ร่างกายได้ ด้วยการฉีด คอลลาเจน เข้าใต้ชั้นผิวหนังแท้ และอีกวิธีที่ง่ายและสะดวกคือ การรับประทาน คอลลาเจน เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของชั้นผิวหนังและเพื่อเสริมให้กระดูกแข็งแรง ควรรับประทาน คลอลาเจน และ แคลเซียม เสริมจะช่วยป้องกัน ภาวะกระดูกพรุนได้
ปัจจุบันนี้ เราเปิดทีวี หรือ อ่านหนังสือต่างๆ คงได้ยินสารตัวหนึ่งที่เรียกว่า คอลลาเจน แต่กลับมีคนไม่มากนักที่รู้ว่ามันคืออะไรและมีประโยชน์ต่อเรายังไง


 
คอลลาเจน กับ ผิวหนัง


โลกรู้จักโปรตีนเกี่ยวพันประเภทหนึ่งที่ต่อกันเป็นสายยาวและมีความเหนียวนุ่มยืดหยุนได้มานานแล้ว โดยรู้จักในชื่อว่า คลอลาเจน
 
ร่างกายของคนเราใช้โปรตีนเป็นส่วนสำคัญในการเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย แต่คลอลาเจนนั้นมีประโยชน์มากกว่านั้น

คอลลาเจนเป็นเส้นใยโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบเฉพาะในสัตว์ โดยเฉพาะในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งส่วนประกอบสำคัญของผิวหนัง กระดูก เส้นเอ็น หลอดเลือด เส้นประสาท เส้นผม ขน และ ต่อมเหงื่อ โดยคอลลาเจนทำหน้าที่ร่วมกับเส้นใยอีลาสตินและกรดไฮยาลูโรนิกช่วยให้เนื้อเยื่อมีความแข็งแรง
ยึดติดอวัยวะภายในร่างกายให้อยู่ด้วยกันภายในชั้นผิวหนังแท้ ช่วยเสริมสร้างผิวหนังของร่างกายให้มีความแข็งแรงและเรียบตึง หากร่างกายขาดคอลลาเจนจะทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย ไม่เต่งตึง ตลอดจนส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆที่สัมพันธ์กับคอลลาเจน

โดยปกติคอลลาเจนจะถูกสังเคราะห์ได้เองภายในร่างกาย โดยใช้กรดอะมิโนที่ได้รับจากอาหาร โดยมีวิตามิน C เป็นตัวช่วย ดังนั้นหากได้รับโปรตีนและวิตามิน C ในปริมาณที่ไม่เพียงพอ จะส่งผลให้การสังเคราะห์คลอลาเจนเป็นไปอย่างไม่สมบูรณ์ และจะทำให้ร่างกายขาดคอลลาเจนได้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ทำลายคอลลาเจนได้อีกด้วย

 
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการทำลายคอลลาเจนก็ได้แก่

อายุ เป็นปัจจัยสำคัญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ สังเกตุง่ายๆ คนแก่ผิวหนังมักจะเหี่ยวก็เกิดจากการขาดคอลลาเจนที่ผิวหนัง โดนเซล์ไฟโบรบลาสต์ที่ทำหน้าที่ผลิตคอลลาเจนจะเสื่อมไปตามอายุที่มากขึ้นทำให้สร้างคลอลาเจนน้อยลง ซึ่งสามารถป้องกันการเสื่อยมสภาพได้โดยการกินอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะโปรตีน และอาหารประเภทที่อุดมด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนต์ ออกกำลังกาย พักผ่อน และดื่มน้ำให้เพียงพอ

แสงแดด ทั้งรังสี UVA และ UVB โดยเฉพาะรังสี UVA ที่สามารถทะลุถึงชั้นผิวหนังแท้ได้จึงสามารถทำลายคอลลาเจน แล้วสร้างคอลลาเจนที่ผิดปกติออกมาจนทำให้เกิดริ้วรอยและตีนกาได้ นอกจากนี้เมื่อผิวได้รับรังสี UV ยังทำให้เกิดสารออกซิแดนต์ซึ่งเป็นตัวการทำลายคลอลาเจนอีกด้วย โดยเราสามารถป้องกันได้โดยหลีกเลี่ยงแสงแดด หรือใช้ครีมปกป้องผิวจากแสงแดด

การสูบบุหรี่ นอกจากบุหรี่จะทำให้เกิดสารออกซิแดนต์แล้ว สารนิโคตินยังไปเพิ่มเอนไซม์แมทริกซ์เมทัลโลโปรตีเนส (matrix - metalloproteinase) ซึ่งไปรบกวนการสร้างคอลลาเจนและทำให้คอลลาเจนแตกตัวอีกด้วย คนที่สูบบุหรีจึงหน้าแก่กว่าวัย วิธีป้องกันก็คือ งดสูบบุหรี่นั้นเอง
 
 
โสม (Ginseng)
โสม เป็นสมุนไพรที่ใช้กันในแถบเอเชียมานานกว่า 2,000 ปีแล้ว เดิมมีถิ่นกำเนิดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน เกาหลี และไซบีเรีย ในตำรับเภสัชของจีน ได้กล่าวถึงสรรพคุณของรากโสมว่าช่วยทำให้อวัยวะภายในเป็นปกติ สงบ ไม่มีอารมณ์หวั่นไหว ฟุ้งซ่าน ทำให้สุขภาพดี ทำให้ตาแจ่มใส จิตใจแช่มชื่น เพิ่มความฉลาด  ในประเทศไทยมีผู้นิยมรับประทานเป็นยาบำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง นับเป็นสมุนไพรที่มีราคาแพง
  
โสมที่มีการศึกษาวิจัยองค์ประกอบทางเคมี และนำมาใช้กัน มากที่สุดมี 2 ชนิด คือ โสมเอเชีย ซึ่งนิยมเรียกว่า โสมจีน หรือโสมเกาหลีนั่นเอง และอีกชนิดคือโสมอเมริกัน โดยเฉพาะในประเทศจีน ความต้องการของตลาดสูงมาก และมีการปลูกมาก เนื่องจากเชื่อว่าการเกิดโรคต่างๆ มีสาเหตุจากความไม่สมดุลของของหยิน และหยาง และการใช้โสมสามารถปรับสมดุลร่างกายได้ ในประเทศจีนมีการใช้โสมทั้ง 2 ชนิด สำหรับโสมอเมริกัน มีสมบัติเป็นยาเย็น (yin) และโสมจีนมีสมบัติเป็นหยาง (yang) หรือยาร้อน ปกติโสมเป็นพืชที่เจริญเติบโตช้า มีความสูงของต้นเพียง 60-80 เซนติเมตรเท่านั้น และต้องรอนานถึง 6 ปี จึงจะได้รากโสมที่มีสารสำคัญทางยาในปริมาณสูงสุด
เรามารู้จักโสม และสรรพคุณที่มีผลการวิจัยรับรองกันดีกว่าค่ะ

1. โสมเกาหลี หรือโสมคน (Korean ginseng)
เนื่องจากรูปร่างของราก ที่มีลักษณะคล้ายคน มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Panax ginseng C.A.Meyer จัดอยู่ในวงศ์ Araliaceae คำว่า “panax” มาจาก “panacea” แปลว่า “รักษาได้สารพัดโรค” โสมชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน แล้วมีการนำไปศึกษาทดลองปลูกในเกาหลี และญี่ปุ่น จนประสบความสำเร็จในเชิงการค้า ถ้าปลูก และส่งออกจากประเทศจีน มักเรียกว่า “โสมจีน (Chinese ginseng)” ที่ปลูก และส่งออกจากประเทศเกาหลีมักเรียกว่า “โสมเกาหลี (Korean ginseng)” เมื่อปลูกจนมีอายุครบ 6 ปี จึงจะมีตัวยาสำคัญสูงสุด โสมที่ขายในตลาดทั่วไปรวมทั้งประเทศไทย มีอยู่ 2 ชนิด คือโสมขาว และโสมแดง, โสมแดง (red ginseng) คือโสมที่ผ่านไอน้ำอุณหภูมิประมาณ 100 องศาเซลเซียส เพื่อฆ่าเอนไซม์ และเชื้อรา ความร้อนทำให้ได้สารที่มีลักษณะคล้ายคาราเมลที่ผิวชั้นนอก (epidermis) ของราก ทำให้ได้รากโสมที่มีสีแดงอมน้ำตาล และมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาดีกว่าโสมขาว  และราคาแพงกว่า ส่วนโสมขาว (white ginseng) ได้จากการนำรากโสมมาล้างน้ำให้สะอาด และตากแดดให้แห้ง จะมีสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลเข้ม
โสมเกาหลี หรือโสมคน
2. โสมอเมริกา (American ginseng)
มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Panax quinquefolium L. เป็นไม้ป่าในแถบตะวันออกเฉียงเหนือของอเมริกา พบครั้งแรกที่ประเทศแคนาดา ในอเมริกาเหนือ มีการใช้ทั้งในรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพร เครื่องดื่ม และชาชง ชาวจีนนำมาปลูก และใช้เช่นเดียวกับโสมเกาหลี
ต้นโสมอเมริกา
องค์ประกอบสำคัญ 
สารเคมีสำคัญที่พบในรากโสมเกาหลี และโสมอเมริกัน มีหลายชนิด แต่ที่สำคัญในการออกฤทธิ์ คือสารกลุ่มไทรเทอร์ปีนอยด์ซาโปนิน (triterpenoid saponin) ชนิด dammarane type ซึ่งรวมเรียกว่ามีจินเซโนไซด์ (ginsenoside) ซึ่งมีนิวเคลียส 2 ชนิดคือ protopanaxadiol และ protopanaxatrial นิวเคลียสทั้ง 2 ชนิดจะจับกับน้ำตาล ชนิด และจำนวนต่างๆกัน ซึ่งปัจจุบันค้นพบจินเซโนไซด์ ประมาณมากกว่า 30 ชนิด โดยพบว่ามีจินเซโนไซด์ จำนวน 8 ชนิด ที่มีความสำคัญคือ จินเซโนไซด์ Rb1, Rb2, Rc, Rd, Re, Rf, Rg1และ Rg2 โดยชนิดที่พบมากที่สุดคือ Rb1, Rb2, Re และ Rg1ในรากโสมอเมริกันจะมีจินเซโนไซด์ต่ำกว่าในรากโสมเกาหลี นอกจากนี้ในรากโสมยังมีสารกลุ่มอื่นๆ เช่น น้ำตาล, แป้ง, น้ำมันหอมระเหย สารจำพวกสเตอรรอล
มาตรฐานสารสกัด ในเภสัชตำรับของเอมริกา (USP) ได้กำหนดว่าสารสกัดโสมเกาหลีที่ได้มาตรฐาน เมื่อนำรากโสมมาสกัดควรได้สารสกัดในอัตราส่วนของ โสมที่ใช้ต่อสารสกัดที่ได้อยู่ระหว่าง 3:1 ถึง 7:1 และควรมีจินเซโนไซด์ (Rb1, Rb2, Rc, Rd, Re, Rg1)ไม่ต่ำกว่า 3% ด้วย จึงจะถือว่าได้มาตรฐานตามที่กำหนด ทั้งนี้ก็เพื่อให้มีประสิทธิภาพเมื่อนำไปใช้นั่นเอง ดังนั้นหากมีโสมที่คุณภาพดีอยู่ในมือแล้ว ก็กินรากแห้งเพียง 2 กรัม ต่อวัน ก็จะได้รับจินเซโนไซด์ในระดับมาตรฐานแล้ว
ปัจจุบันมีการทำโสมสกัด (G115)  เป็นโสมสกัดมาตรฐานมี จินเซโนไซด์ 8 ชนิดความเข้มข้น 4% เป็นต้น
ข้อมูลการศึกษาวิจัย
จากรายงานการทดลอง พบว่าโสมมีคุณสมบัติเป็น “adaptogen” ซึ่งหมายถึง ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับภาวะกดดัน และ เป็นยาบำรุงทั้งร่างกาย อย่างไรก็ตามพบว่าจินเซโนไซด์ บางตัวมีฤทธิ์ต้านกัน เช่น จินเซโนไซด์ Rg มีฤทธิ์เพิ่มความดันโลหิต และกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง แต่ จินเซโนไซด์ Rb มีฤทธิ์ลดความดันโลหิต และกดระบบประสาท เป็นต้น
จากการศึกษาวิจัยพบว่าโสมมีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง ที่สำคัญๆ ได้แก่
1) เพิ่มสมรรถนะในการทำงานของร่างกายให้สูงขึ้น เนื่องจากโสมมีสรรพคุณในการต้านความเมื่อยล้า (antifatigue effect) จากกลไกร่วมกันหลายอย่าง เช่น การเพิ่มการดูดซึมออกซิเจนของผนังเซล เซลจึงสามารถสร้างพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนั้นโสมยังช่วยปรับการเต้นของหัวใจ ให้กลับสู่ภาวะปกติเร็วขึ้น ร่างกายจึงเหนื่อยช้าลง มีความอดทนต่อการทำงานมากขึ้น ซึ่งช่วยทำให้ผู้สูงอายุมีสมรรถภาพการทำงานของร่างกายดีขึ้น และช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วยในระหว่างพักฟื้น ให้หายเจ็บป่วย เป็นปกติได้เร็วขึ้น และเป็นสาเหตุที่ทำให้เชื่อกันว่าโสมมีสรรพคุณกระตุ้นสมรรถนะทางเพศ ทั้งนี้มีรายงานว่าโสมมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดด้วย
2) คุณสมบัติต่อต้านความเครียด (antistress effect) โดยจะช่วยปรับร่างกาย และจิตใจ ให้ทนต่อความกดดันจากภายนอก โดยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนที่มีผลป้องกัน และลดความเครียดจากต่อมใต้สมอง และช่วยคลายความวิตกกังวล 
3) กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง มีผลให้รู้สึกมีชีวิตชีวา กระปรี้กระเปร่า โดยไม่ทำให้เกิดการอ่อนเพลีย หรืออ่อนล้าตามมา เหมือนยาที่มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางอื่นๆ โดยพบว่าซาโปนินจากโสมเมื่อให้ในขนาดน้อยๆ จะมีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง แต่เมื่อให้ในขนาดสูงๆจะมีฤทธิ์กดประสาท ดังนั้นควรรับประทานในขนาดที่พอเหมาะนะคะ มิเช่นนั้นอาจได้ผลตรงกันข้าม
4) เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน โดยมีผลกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแบบไม่เฉพาะเจาะจง มีรายงานว่าเพิ่มเม็ดเลือดขาวบางชนิดจึงเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อเชื้อโรค และสิ่งแปลกปลอม
5) มีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยมีฤทธิ์กระตุ้นตับอ่อนให้หลั่งอินซูลิน มาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ
6) ชะลอความแก่ เนื่องจากโสมมีฤทธิ์ทำลายอนุมูลอิสระของออกซิเจนที่เกิดจากการทำลายไขมัน (lipid oxidation) อนุมูลอิสระนี้มีอนุภาพทำลายเนื้อเยื่อต่างๆ ให้เสื่อมสลายลงก่อนเวลาอันควร ซึ่งเชื่อว่าเป็นผลทำให้เกิด “ชราภาพ (aging)” เนื่องจากผลของโสมในการปรับสภาพร่างกาย และจิตใจให้ทนต่อความกดดัน เชื่อว่าช่วยเสริมฤทธิ์กันทำให้โสมมีสรรพคุณ “ชะลอความชรา” ได้
ขนาดที่ใช้ 0.5-2 กรัม/วัน (รากแห้ง) ควรใช้ในขนาดที่แนะนำนะคะ เพราะการใช้มากเกินไป อาจได้ผลที่ตรงกันข้าม และมีรายงานว่าการใช้ในขนาดสูงเกินไป ทำให้เส้นเลือดแดงในสมองอักเสบได้
ข้อควรระวังในการใช้ 
1.ไม่ควรใช้ต่อเนื่องกันเป็นเวลานานๆ ควรใช้เป็นช่วงๆ คือนาน 1-2 เดือน แล้วหยุด 1-2 เดือน แล้วเริ่มใหม่
2.ควรทานโสมก่อนอาหาร 3 ชั่วโมง และไม่ควรทานพร้อมวิตามินซี หรือผลไม้รสเปรี้ยว
3.อาจพบอาการข้างเคียงถ้าใช้ในขนาดสูงกว่าที่แนะนำ เช่นความดันโลหิตสูง ตื่นเต้น กระวนกระวาย ท้องเสีย เป็นผื่นที่ผิวหนัง นอนไม่หลับ ซึ่งเรียกว่า “ginseng abuse syndrome”
4.ระวังการใช้ในผู้ที่มีความดันโลหิตสูง เบาหวาน ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด
5.ควรระวังการใช้ร่วมกับยาลดน้ำตาลในเลือด เนื่องจากอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป เนื่องจากโสมมีผลลดระดับน้ำตาลในเลือดด้วย ดังนั้นในผู้ป่วยเบาหวาน ควรกินโสมพร้อมอาหาร แต่ควรปรึกษาแพทย์ของท่านก่อนการใช้โสมจะดีกว่า
6.ระวังการใช้ร่วมกับยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น warfarin เนื่องจากยาทั้งสองอาจเสริมฤทธิ์กัน  มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
7.ไม่ควรใช้ในหญิงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร และในเด็ก เนื่องจากไม่มีข้อมูลด้านประสิทธิภาพ และความปลอดภัยในมนุษย์
ประเมินผล : จากการศึกษาพบว่าโสมเกาหลี และโสมอเมริกันเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการ
รักษาโรคต่างๆได้ แต่การทดลองทางคลินิกยังไม่มากพอ และผลบางอย่างยังเป็นที่โต้แย้งกันอยู่ แต่ก็มีการศึกษากันมากพอสมควรกว่าสมุนไพรอื่นๆ ซึ่งพบว่าฤทธิ์เกี่ยวกับการเพิ่มภูมิคุ้มกัน และต้านการล้า หรือภาวะเครียดนั้นเป็นฤทธิ์ที่ค่อนข้างเด่นชัดกว่าฤทธิ์อื่นๆ อย่างไรก็ตามควรเปรียบเทียบราคากับผลที่ได้รับด้วยว่าคุ้มกันหรือไม่ค่ะ
สำหรับโสมชนิดอื่นๆ ที่อยู่ในตระกูลโสม มีอีกมากมายเลยค่ะ แต่ว่าข้อมูลการศึกษาวิจัยยังไม่เพียงพอ
จึงยังไม่ได้แนะนำให้ใช้รับประทานได้อย่างปลอดภัยค่ะ ควรรอผลการวิจัยด้านต่างๆก่อน อาทิเช่น
โสมจีน หรือ Sanchi Ginseng เป็นรากของ P. notoginseng Burk. (P. wangianus Sun.) เป็นโสมที่เพาะปลูกในประเทศจีน มณฑลยูนนาน และกวางสี และบางส่วนของประเทศเวียดนาม ใช้ในตำรายาจีนเพื่อห้ามเลือด แก้ฟกบวม
โสมญี่ปุ่น (Japanese Chitkusetsu Ginseng) เป็นโสมที่มาจาก P. pseudoginseng Wall. subsp. Japonicus Hara (P. japonicus C.A. Meyer) ในญี่ปุ่นใช้แทนโสมเกาหลี, ใช้แก้ปวดเกร็งท้อง
โสมฮิมาลายัน ได้จาก P. pseudoginseng subsp. Himalaicus Hara ขึ้นทั่วไปในธรรมชาติที่เนปาล และมณฑลฮิมาลายันตะวันออก
โสม Zhuzishen ได้จาก P. pseudoginseng var. major (Burk) C.Y. Wu et K.M. Feng (P. major (Burk.) Ting) พบในแถบตะวันตกของประเทศจีน ทั้ง โสมฮิมาลายัน และ โสม Zhuzishen ใช้ตำรายาจีนเช่นเดียวกันค่ะ
โสมไซบีเรีย  คือรากของ Acanthopanax senticosus (Eleutherococcus senticosus) ใช้ตำรายาจีน
กาแฟ (coffee)
การดื่มกาแฟดูเหมือนจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลดขนาดของหน้าอก[74] และการได้รับปริมาณคาเฟอีนในระดับหนึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งเต้านม[75] กาแฟดูเหมือนว่าจะลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน โรคหัวใจ โรคเบาหวานประเภทที่ 2 โรคตับแข็ง[76] และโรคเกาต์ จากผลของการศึกษาระยะยาวในปี ค.ศ. 2009 พบว่าผู้ที่ดื่มกาแฟในปริมาณที่เหมาะสม (ได้แก่ 3-5 ถ้วยต่อวัน) จะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อม และโรคอัลไซเมอร์[77] แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระเพาะไหลย้อนกลับและโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง[78] ผลกระทบที่เกิดจากการดื่มกาแฟบางอย่างเป็นเพราะคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟ แต่ก็ใช่ว่าส่วนประกอบอย่างอื่นไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพเสียทีเดียว[79] อย่างเช่น สารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีส่วนช่วยในการป้องกันอนุมูลอิสระภายในร่างกาย[80]
กาแฟช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของตัวระงับความเจ็บปวด โดยเฉพาะในการรักษาไมเกรน และยังสามารถกำจัดโรคหืดในผู้ป่วยบางคนได้ด้วย คุณประโยชน์บางอย่างอาจส่งผลต่อเพศใดเพศหนึ่งเท่านั้น ตัวอย่างเช่น มันได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดการฆ่าตัวตายในผู้หญิง และช่วยป้องกันนิ่วและโรคถุงน้ำดีในผู้ชาย นอกจากนี้มันยังช่วยลดโอกาสเกิดโรคเบาหวานในทั้งสองเพศ และลดเพียงประมาณ 30% ในผู้หญิง แต่ลดมากกว่า 50% ในผู้ชาย กาแฟยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคตับแข็งและป้องกันมะเร็งในปลายลำไส้ใหญ่และกระเพาะปัสสาวะ กาแฟสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งในเซลล์ตับ ซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของมะเร็งตับ (Inoue, 2005) และสุดท้ายกาแฟช่วยลดโอกาสเกิดโรคหัวใจอีกด้วย
ยังมีข้อดีอื่น ๆ ที่เป็นเหตุผลให้คนส่วนใหญ่นิยมดื่มกาแฟ เช่น กาแฟมีส่วนช่วยเพิ่มความจำระยะสั้น และเพิ่มไอคิว นอกจากนี้ยังช่วยเปลี่ยนระบบเมตาบอลิซึมให้มีสัดส่วนของลิพิดต่อคาร์โบไฮเดรตที่ถูกเผาผลาญสูงขึ้น ซึ่งช่วยลดอาการล้ากล้ามเนื้อของนักกีฬา
ทีมวิจัยของ University of Bari ประเทศอิตาลี พบว่าการดื่มกาแฟ 1-2 แก้วต่อวัน ช่วยป้องกันโรคหนังตากระตุกได้ และยังช่วยลดอัตราการกระตุกให้ช้าลงได้สำหรับผู้ป่วย[81]
 
 
ซูคราโลส (Sucralose)
สารให้ความหวาน
ในปัจจุบัน ผู้บริโภคให้ความสนใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องน้ำหนักตัวและโรคเบาหวาน ดังนั้นตลาดผลิตภัณฑ์ที่ให้พลังงานต่ำจึงขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ และมีความพยายามที่จะค้นคว้าหาสารให้ความหวานแทนน้ำตาลเพิ่มมากขึ้นด้วย
สารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่ใช้ในปัจจุบัน แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ
1. สารให้ความหวานที่ให้พลังงาน เช่น ฟรุคโตส ซอร์บิทอล
2. สารให้ความหวานที่ ไม่ให้พลังงาน เช่น ซูคราโลส สตีวิโอไซด์ แอสปาร์แตม ซัคคารีน และอะซีซัลเฟมเค
ซูคราโลส (Sucralose)
คุณสมบัติ
              
ซูคราโลสเป็นสารให้ความหวานที่ไม่ให้พลังงาน ซึ่งถูกสร้างจากการใช้น้ำตาลซูโครสเป็นสารตั้งต้น แล้วแทนที่กลุ่มไฮดรอกซิล 3 ตำแหน่งด้วยอะตอมสารคลอไรด์ ทำให้มีสูตรโครงสร้างคล้ายกับน้ำตาล แต่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ แต่ยังคงให้รสชาติหวานและไม่มีรสขมติดลิ้นใกล้เคียงน้ำตาล ซูคราโลสมีลักษณะเป็นผลึกแข็งสีขาวร่วน ละลายน้ำได้ดีและสามารถใช้ปรุงอาหารร้อนบนเตาได้โดยไม่สูญเสียความหวาน
ความปลอดภัย
องค์การอนามัยโลก(WHO)และองค์การอาหารและเกษตรกรรมแห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้ให้การยอมรับความปลอดภัยของซูคราโลสตั้งแต่ปี พ.ศ.2533 ทำให้ประเทศต่างๆมากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก เช่น แคนาดา อเมริกา ญี่ปุ่น ยุโรป ได้ให้การยอมรับการใช้สารนี้ในอาหาร และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
มีการศึกษาเกี่ยวกับความปลอดภัยของซูคราโลสมากกว่า 100 ชิ้น นอกจากนี้ยังมีการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของซูคราโลสต่อสิ่งแวดล้อมอีกกว่า 40ชิ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าซูคราโลสไม่มีผลต่อระบบนิเวศน์ การศึกษาด้านความปลอดภัยของซูคราโลสมีการศึกษาทั้งในระยะสั้น และระยะยาว ซึ่งรวมไปถึงการศึกษาเรื่องเภสัชจลนศาสตร์ การก่อกลายพันธุ์ ความเป็นพิษต่อการสืบพันธุ์ ผลต่อทารกในครรภ์ ผลต่อการเกิดมะเร็ง ผลต่อระบบประสาท และผลต่อระบบภูมิต้านทาน จากการทดลองซูคราโลสในระดับต่างๆไม่พบความเป็นพิษ และไม่เป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งผลนี้ก็คล้ายคลึงกับสารประกอบอื่นๆที่ดูดซึมยาก
แม้ว่าโครงสร้างของซูคราโลสจะคล้ายกับน้ำตาล แต่ก็ไม่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดหรือระดับอินซูลิน และไม่ทำให้ฟันผุ จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
เปรียบเทียบลักษณะรสชาติซูคราโลส สารให้ความหวานต่างๆ และน้ำตาล
 
 
ครีมเทียม
ครีมเทียม ชื่อก็บอกแล้วว่าเทียม... ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข “ครีมเทียม” หมายความว่า ผลิตภัณฑ์ที่มิได้ทำจากนมและมีไขมันอื่นนอกจากมันเนย เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ หรือครีมที่มีมันเนยผสมอยู่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของไขมันทั้งหมด

ดังนั้นวัตถุดิบสำคัญคือ ไขมันพืช , มาร์การีน หรือ ชอทเทนนิง ก็ได้
ส่วนครีมแท้ ที่รู้จักกันคือ วิปครีมนั่นแหละ  ไขมันนมราคาสูงมากกกกก  แต่คนในปัจจุบันกลับมีความเชื่อที่จะไม่ทานนมที่มีไขมันนม หันไปบริโภคนมไขมันต่ำ.. ทีนี้บริษัมนมก็รวยสิครับ แยกของแพงออก แล้วขายนมไขมันต่ำในราคาเท่าเดิม  ........ครีมเทียมทานได้ไม่อันตรายครับ สารเคมีที่ใช้มีในธรรมชาติ  สีคาราเมลวิธีผลิตก็มาจากการเคี่ยวน้ำตาลไหม้ อิมัลซิไฟเออร์เช่นไข่ขาว โซเดียมแคลซีเนตมีในนมอยู่แล้ว คาราจีแนนเป็นไฮโดรคอลลอยด์ธรรมชาติ

ครีมเทียมกินได้ ไม่ผิด  ไม่อันตราย ไม่ต้องตื่นตระหนก  ผู้ผลิตไม่ได้หลอกลวงผู้บริโภค

ข้างบนเขาถามว่าทำไม อย. ให้ขาย   คำตอบคือ สารเคมีและกรรมวิธีการผลิตไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

 
 
 
 
 
 หอยนางรม
 
Oyster Extract Powder 
   สารสกัดจากหอยนางรม
 
 
 
 
 
สรรพคุณ
สร้างเสริมสุขภาพทางเพศ โดยรวมของท่านชายให้ดีขึ้น ไม่ให้เสื่อมถอยไปได้ง่ายๆ ให้พลังงานกับร่างกายได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีไกลโคเจน ซึ่งเป็นแหล่งให้พลังงานที่สำคัญของร่างกาย
** มีสังกะสี ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการสร้างHormone เพศชายคือ เทสโทสเตอโรน
มีสารเทาริน ซึ่งส่งผลให้การทำงานของระบบประสาทกล้ามเนื้อและหลอดเลือดทำงานได้ปกติ  
แนะนำให้ผู้ป่วยโรคตับ หรือสภาพการทำงานของตับบกพร่อง เช่นตับแข็ง ตับอักเสบ หรือนิ่ว เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการดูดซึมไขมันจำเป็น ผลการวิจัยล่าสุดพบว่า เทารีนยังช่วยลดอัตราการเสี่ยงในการเป็นโรคลมชัก หรืออาการผิดปกติของประสาทด้วย และนอกจากนี้ยังมี  วิตามิน  เกลือแร่ ที่จำเป็นต่อร่างกายอื่นๆอีกมากมาย
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 โสม
 
   Ginseng Extract Powder 
   สารสกัดจากโสม
 
 
 
 
 
สรรพคุณ
สาร Adaptogens ในโสม มีคุณสมบัติลดความเครียด ช่วยควบคุมระดับอารมณ์และมีสารที่ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง ช่วยปรับสภาพร่างกาย จิตใจให้ทนต่อภาวะต่างๆได้มากขึ้น ยังช่วยลดความเมื่อยล้า โดยกระตุ้นให้เซลล์ ในร่างกายสร้างพลังงานเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรงมากขึ้น นอกจากนี้โสมยังมีส่วนช่วยเพิ่มการสร้างพลังงาน ทำให้นักกีฬามีความทนทานต่อการ   ออกกำลังหนักได้ดีขึ้น ทำให้สามารถนำพาออกซิเจนไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง
โดยการสร้างสาร Interferon ซึ่งเป็นสารต้านเชื้อไวรัส กระตุ้นการสร้างโปรตีนInterleukin- 1 ช่วยบรรเทาอาการร้อนวูบวาบในหญิงวัยหมดประจำเดือน ลดการหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความเครียดจากต่อมหมวกไต ลดอัตราการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ 
ช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศและเสริมการสร้างตัวอสุจิในเท่านชายและสร้างความแข็งแรงของอวัยวะสืบพันธุ์  ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเป็นปกติ ลดอาการข้างเคียงจากการฉายรังสี
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 เห็ดหลินจือ
 
Ganoderma Lucidium Extract Powder
   สารสกัดจากเห็ดหลินจือ
 
 
 
 
 
สรรพคุณ   
ช่วยในการต้านสารอนุมูลอิสระ  ช่วยยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด  ช่วยบำรุงตับ ทำให้ตับทำงาน
มีประสิทธิภาพดีขึ้น  เสริมสร้างระบบภูมิต้านทานในร่างกาย  ล้างสารพิษ และสารตกค้าง หรือสารเคมีต่างๆที่เป็นพิษต่อร่างกาย และที่สำคัญยังช่วยบำรุงไต ทำให้ไตทำงานได้ดีขึ้น
 
 
 
 
 
 
 
Pic
 
L-Arginine  แอล อาร์จีนิน
 
 
 
 
 
สรรพคุณ 
เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศชายและเพิ่มจำนวนอสุจิ , สร้างเสริมภูมิคุ้ม
กันโดยกระตุ้นการทำงานของต่อมไทมัส ซึ่งเป็นศูนย์รวมของเลือดขาวทีเซลล์ (T-lymphocytes)      
ที่ทำหน้าที่ต่อสู้กับโรคติดเชื้อ , กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนการเจริญเติบโต , เผาผลาญไขมันที่สะสมในร่างกาย และช่วยให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้น , เสริมความตื่นตัวทั้งทางร่างกายและจิตใจ , ลดระดับของ
LDL ซึ่งเป็นคลอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี
     
แอล-อาร์จินีน (L-Arginine) คือกรดอะมิโน ที่ถือว่าเป็น "โมเลกุลมหัศจรรย์" มีคุณประโยชน์ต่อ
ร่างกายมหาศาล เพราะ L-Arginine จะกระตุ้นให้ร่างกายผลิต ไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide)
เพื่อช่วยในเรื่องการขยายตัวของหลอดเลือด รวมทั้งกระตุ้นการหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญในการคงความ เป็นหนุ่มเป็นสาว ช่วยชะลอความชรา
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
Pic
 
Zinc Amino Acid Chelate
 
 
 
 
 
สรรพคุณ  
ซิงค์ (สังกะสี) ช่วยย่อย เผาผลาญไขมัน และสลายไขมันเก่า และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
การทำงานของ Growth Hormone ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการสลายไขมันสะสมตามส่วนต่างๆ
ของร่างกายอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะเวลาหลับ นอกจากนี้ ซิงค์ยังช่วยในการสร้าง RNA และ
DNA และสังเคราะห์โปรตีน ซิงค์มีความจำเป็นสำหรับการหายใจของเนื้อเยื่อ Zinc Amino Acid Chelate เป็นส่วนหนึ่งของอินซูลิน ซึ่งเกี่ยวข้องในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรทและให้พลังงาน
ซิงค์จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโต และการเจริญของระบบสืบพันธุ์และช่วยให้ต่อมลูกหมาก
ทำหน้าที่ได้ถูกต้อง ป้องกันไม่ให้เป็นหมัน ซิงค์ทำให้การรักษาบาดแผล และแผลไฟไหม้หายเร็วขึ้น
ซิงค์ช่วยให้การดูดซึมของวิตามิน บี ดีขึ้น และนำ วิตามิน เอ ไปใช้ ประโยชน์ ซิงค์จำเป็นสำหรับสุขภาพผิวหนัง ระบบทางเดินอาหาร ลำไส้ และระบบประสาทกลาง
   
ซิงค์ (สังกะสี) สำคัญในการสร้างกระดูกตามปกติ และช่วยในการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
ซิงค์ช่วยในการขจัดคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากเลือดทางปอด ซิงค์ช่วยแก้ปัญหาเรื่องสิว
มีรายงานการวิจัยพบว่า ในผู้ที่มีความผิดปกติของผิวหนังต่อไปนี้  มีระดับของแร่ธาตุสังกะสีใน
ผิวหนังต่ำกว่าปกติ เช่น ผู้ที่เป็นสิว ผู้ที่มีอาการผิวหนังพุพอง ผู้ป่วยโรคงูสวัสดิ์ และ ผู้ป่วย
โรคเรื้อนกวาง (สะเก็ดเงินสะเก็ดทอง) มีการใช้แร่ธาตุสังกะสี เป็นแร่ธาตุเสริม เพื่อกระตุ้น
ภูมิต้านทาน รักษา ป้องกันสิว และป้องกันการเกิดแผลเป็นจากสิว ทั้งนี้การเสริมแร่ธาตุสังกะสีจะช่วยรักษาสิวได้หรือไม่ขึ้นกับว่าร่างกายมี ภาวะขาดแร่ธาตุสังกะสีหรือไม่

 

 
 
กระชายดำ
 
   Krachai Dam Extract Powder
   สารสกัดจากกระชายดำ
 
 
 
 
 
สรรพคุณ
กระชายดำมีสาร Borneol , Sylvestrene , 5-7-Dimethoxyflavone=5 และ สารกลุ่ม ฟลาโวนอยด์    
9 ชนิด  ออกฤทธิ์ขยายหลอดเลือดแดงใหญ่ ยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด เพิ่มความหนาแน่นของอสุจิ  มีฤทธิ์ต้านการอักเสบเทียบเท่ายามาตรฐาน และมีฤทธิ์ต้านเชื้อจุลินทรีย์บางชนิด
 

 
 
 
 

 

 

 




สุขภาพ (Healthy)

โรคแพ้อากาศ article
เป็นพ่อแบบไหน ลูกวัยรุ่น จึงจะไม่มีปัญหา article
คำพูดเปรียบเหมือนนำผึ้งหรือยาพิษ article
อาหารเพื่อสุขภาพ article
เตรียมตัวเสียสาว article
สอนลูกเรื่องเซ็กซื สอนเด็กเรื่องรัก article
สุขภาพจิตดี เมื่อมีเพื่อนและลูกหลาน article
วัคซีนป้องกันโรคมะเร็ง(HPV)
ทำอะไร? หลังเกษียณ
ส่วนประกอบ อาหารเสริมพลังชาย
ยืดการตาย จากการเป็นมเร็ง
โสม (Ginseng)
ฝากท้องเร็วไว ก่อน 3 เดือนรก แจกรางวัล
Maca
ไข้หวัดนก article
บทความเพื่อสุขภาพ article
สุขภาพมีความสำคัญกับการพัฒนาประเทศอย่างไร article
อาหารเสริมเพิ่มพลังเซ็กซ์ article
รู้ว่ามีกลิ่นปาก ทำอย่างไร article
กามตายด้านในผู้หญิง article
ตกขาวมีความสำคํญ ในสตรีจริงหรือ article
วัยรุ่น กับการมีเพศสัมพันธ์ article
ลูกสาววัย 14 อกหัก article
เทคนิค การครองชีวิตคู่ article
สร้างคุณค่า ให้เวลาแก่ครอบครัว article
เซ็กซ์ สาเหตุใหญ่ ทำให้ชีวิตคู่พัง article
วิธีป้องกันโรคหวัดมรณะ(sars) article
วัยทองวัยแห่งคุณค่า article
lสุขบัญญัติแห่งชาติ 10 ประการ article
เครือข่ายสุขภาพ article
ความรัก คือ อะไร ??? article
พ่อถามลูก article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
Link :